นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
••• ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย •••
... สนทนาธรรมที่ ...
>>> มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนา
สาธุ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เวปจิตติสูตร
พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญขันติธรรม
ข้อความโดยสรุป
พระผู้มีพระภาค ตรัสกับภิกษุทั้งหลาย โดยทรงปรารภถึงการที่ท้าวสักกะ ผู้เป็นจอมแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์ ทรงพรรณนาคุณของขันติ (ความอดทน) และโสรัจจะ (ความสงบเสงี่ยม) ความว่า เมื่อสงครามระหว่างเทวดากับอสูรเข้าประชิดกัน เทวดาเป็นฝ่ายชนะ เทวดาจึงจับท้าวเวปจิตติมัดที่มือที่เท้าและที่คอ นำมายังสุธรรมาสภาในสำนักของท้าวสักกะ ท้าวเวปจิตติได้ด่าท้าวสักกะด้วยถ้อยคำอันหยาบคาย มาตลี-เทพบุตรเห็นดังนั้น จึงได้ทูลถามท้าวสักกะว่า ทรงอดทนต่อถ้อยคำอันหยาบคายของท้าวเวปจิตติได้ เพราะความกลัว หรือ เพราะไม่มีกำลัง ท้าวสักกะตรัสตอบว่า ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง เพราะพระองค์ไม่ทรงโต้ตอบคนพาล นอกจากนั้นท้าวสักกะ ยังได้ตรัสกับมาตลีเทพบุตรถึงคุณของขันติ ต่อไปอีก เช่น ประโยชน์ทั้งหลายมีประโยชน์ของตนเป็นอย่างยิ่ง, ประโยชน์ยิ่งกว่าขันติ ย่อมไม่มี, บุคคลผู้ไม่โกรธตอบต่อผู้ที่โกรธย่อมชื่อว่า ชนะสงครามซึ่งเอาชนะได้ยาก ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่น โกรธแล้ว เป็นผู้มีสติระงับไว้ได้ ผู้นั้น ชื่อว่า ประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายตนและคนอื่น เป็นต้น ในตอนท้ายพระผู้มีพระภาค ตรัสว่า เมื่อพวกเธอบวชเข้ามาในพระธรรมวินัยนี้แล้วถ้ามีความอดทนและมีความสงบเสงี่ยม ก็จะพึงงามในพระธรรมวินัยนี้โดยแท้
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาค่ะ
เมื่อพวกเธอบวชเข้ามาในพระธรรมวินัยนี้แล้ว ถ้ามีความอดทนและมีความสงบเสงี่ยม ก็จะพึงงามในพระธรรมวินัยนี้โดยแท้.
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่น โกรธแล้ว เป็นผู้มีสติระงับไว้ได้ ผู้นั้น ชื่อว่า ประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายตนและคนอื่น เป็นต้น..
ขอขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนา ค่ะ.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น