วันอาทิตย์ที่ 8 มี.ค. 52
ที่ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ได้ยินคำกล่าวในระหว่างการสนทนาธรรมตอนหนึ่งว่า
"ศีลทั้งหมดเป็นมหาทาน"
ที่กล่าวว่า
ศีลทั้งหมดเป็นมหาทาน
เพราะเป็นการวิรัติ ยกเว้น ไม่กระทำการล่วงศีลทั้งหลาย
จึงเปรียบได้กับการกระทำมหาทาน เพราะไม่ล่วงอกุศลกรรมเลย
(แต่...จะไม่ล่วงได้มากหรือน้อย คงเป็นไปตามเหตุปัจจัย)
...รึเปล่าคะ??? ถามเองก็ยัง...ง้ง...งง...!!!
หรือว่า
หมายความโดยนัย อันมีความหมายสำคัญโดยละเอียดอย่างอื่นคะ
ขอความกรุณาจากอาจารย์วิทยากรและผู้รู้ทุกท่านช่วยอธิบายด้วยค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
ในอังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต ทานวรรคที่ ๔ปุญญาภิสันทสูตร ข้อ ๑๒๙พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า ศีล คือ การเว้นปาณาติบาต การเว้นอทินนาทานการเว้นกาเมสุมิจฉาจาร
การเว้นมุสาวาทการเว้นการเสพของมึนเมา อันเป็นที่ตั้งของความประมาทนั้นเป็น "มหาทาน" เป็นทานอันเลิศเพราะเหตุ ชื่อว่าความไม่มีภัย ความไม่มีเวรความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์ทั้งหลายหาประมาณไม่ได้เลย................................ขอเชิญอ่านข้อความโดยละเอียดจาก.
.
.
บุญญกิริยาวัตถุ ๑๐ ...ศีล (๒)
1. ให้ชีวิตเป็นทาน
2. ให้ความปลอดภัยในทรัพย์สินของผู้อื่นเป็นทาน
3. ให้ความปรองดองไม่แตกแยกในครอบครัว
4. ให้ความจริงเป็นทาน
5. ให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นทาน
ผู้รักษาศีลข้อนี้ย่อมไม่ละเมิดต่อผู้อื่นด้วยประการทั้งปวง
ฉะนั้น คนที่อบรมศีลจนเป็นนิสัย ผู้นั้นก็มี สีลุปนิสัยซึ่งจะเห็นได้ว่า ท่านเหล่านั้น มีกาย วาจา สะอาดไม่เบียดเบียนใครให้เดือดร้อนเลย.
ขออนุโมทนาค่ะ
เครื่องประดับที่งดงามที่ยิ่งกว่าศีลไม่มีค่ะ คนที่รักษาศีล ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น วัย
กลางคน คนสูงอายุ หรือวัยไหนก็ตาม ชื่อว่ามีศีลงามยิ่งกว่าเครื่องประดับภายนอกค่ะ
ในอังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต ทานวรรคที่ ๔ปุญญาภิสันทสูตร ข้อ ๑๒๙พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า ศีล คือ การเว้นปาณาติบาต การเว้นอทินนาทานการเว้นกาเมสุมิจฉาจาร
การเว้นมุสาวาทการเว้นการเสพของมึนเมา อันเป็นที่ตั้งของความประมาทนั้นเป็น "มหาทาน" เป็นทานอันเลิศเพราะเหตุ ชื่อว่าความไม่มีภัย ความไม่มีเวรความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์ทั้งหลายหาประมาณไม่ได้เลย.
ขออนุโมทนาครับ
...รึเปล่าคะ??? ถามเองก็ยัง...ง้ง...งง...!!!คำตอบเหมือนมีแล้วเพราะทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุและปัจจัยแต่ยังไม่กระจ่าง.....?
ขอบพระคุณทุกท่านและขออนุโมทนาค่ะ
อ่า ...
ความคิดเห็นที่ 10 JANYAPINPARD วันที่ 11 มี.ค. 2552 07:02
(แต่ ... จะไม่ล่วงได้มากหรือน้อย คงเป็นไปตามเหตุปัจจัย)
... รึเปล่าคะ??? ถามเองก็ยัง ... ง้ง ... งง ... !!!คำตอบเหมือนมีแล้วเพราะทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุและปัจจัยแต่ยังไม่กระจ่าง ... ?
คำตอบเหรอคะ อืม ... ... อินดี้ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ
ประเด็นที่ถาม คือ 1. ทำไมศีลทั้งหมดจึงเป็นมหาทาน
(อ่านทุกความคิดเห็น ตอนนี้พอเข้าใจขึ้นบ้างแล้วค่ะ)
2. ถ้าหมายถึง การไม่ล่วงศีล คือไม่ทำบาปเวร เท่ากับได้ให้ทาน
เช่น ศีลข้อหนึ่ง ละเว้น ... ไม่ฆ่า จึงเป็นมหาทาน เพราะเท่ากับให้ชีวิต ( ... ใช่มั้ยคะ)
(เท่าที่อ่านความคิดเห็นและไปอ่านตามลิ้งค์ เริ่มหายงงบ้างแล้วค่ะ)
3. แต่อินดี้เข้าใจว่า ... การจะงดเว้นบาปเวรใดๆ ได้มากหรือน้อย
คงต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ได้สะสมมาก่อน
และที่ค่อยๆ เจริญขึ้นทีละเล็กละน้อยในปัจจุบัน ... (บวกเพิ่มเข้าไปด้วย) ... ค่ะ
(ความเข้าใจมีน้อย ตอนนี้มีประมาณเท่านี้น่ะค่ะ)
อ่านความคิดเห็นของทุกท่านอยู่หลายรอบ
อินดี้เริ่มจะแฮ็ปปี้ขึ้นบ้างแล้ว
(เพราะ งง น้อยลง)
ขออนุโมทนาค่ะ
ผู้ที่ทำทาน เมื่อผลของทานให้ผล ก็มีการได้ลาภเป็นต้น ฯลฯ เมื่ออยู่ในศีลซึ่งเป็นมหาทาน การให้ผลก็ยิ่งมีกำลัง เช่นรูปสวย รวยทรัพย์ ดวงดี โชคดี ถูกล๊อตตารี่บ่อยๆ อายุยืน เป็นหญิงหรือชายร้อยเปอร์เซ็น มีมิตรที่ดีเป็นบริวาร ฯลฯ ที่เขียนมานี้อย่าหลงกลให้เป็นปัจจัยให้การรักษาศีลนะครับ เพราะจะเป็นไปตามอำนาจของ โลภะ ต้องเป็นธัมมะ ครับ ป.ล. โชคดีดวงดีทุกคนก็ต้องการใช่ไหมครับ ทาน มหาทาน ครับที่เป็นปัจจัยโลภะอีกแล้ว
ขออนุโมทนาค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10 JANYAPINPARD วันที่ 11 มี.ค. 2552 07:02
(แต่...จะไม่ล่วงได้มากหรือน้อย คงเป็นไปตามเหตุปัจจัย)
...รึเปล่าคะ??? ถามเองก็ยัง...ง้ง...งง...!!!
ง้ง....!!! งง ได้ไงจ๊ะ ? คุณJANYAPINPARD เมื่อได้ศึกษาพระธรรม
และเข้าใจพระธรรม ต้องเป็นผู้ตรงต่อพระธรรม พระธรรมเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงพระธรรมได้ เพราะพระธรรม
เป็นสิ่งที่มีจริงๆ เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย จะไม่ล่วงได้มากหรือน้อยก็
เป็นไปตามเหตุปัจจัยไม่สามารถบังคบบัญชาได้ ไม่มีตัวตนที่จะไป
ทำทานหรือรักษาศีลได้ อย่างที่คุณ JANYAPINPARDเข้าใจน่ะถูก
แล้วค่ะที่กล่าวว่า แต่...จะไม่ล่วงได้มากหรือน้อย คงเป็นไปตามเหตุปัจจัย
ขออนุโมทนาค่ะ