* กิเลส เป็นสภาพรู้ที่เกิดกับจิต คือเจตสิกที่เศร้าหมอง ปรุงแต่งให้จิตและเจตสิกที่เกิดร่วมกันเศร้าหมอง เป็นอกุศล
* กิเลสที่เป็นรากมูลของกิเลสอกุศลทั้งหลาย ก็คือโลภะ โทสะ โมหะ
* กิเลสทุกประเภท เป็นอันตราย นำมาซึ่งทุกข์ โทษ ภัย กล่าวคือ
- ขณะที่กิเลสนั้นเกิดขึ้นกับจิต ย่อมประทุษร้ายจิตให้เป็นไปตามอำนาจของกิเลสนั้น
- ถ้ากิเลสนั้นมีกำลังมาก ก็จะทำให้กระทำอกุศลกรรมเบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน ซึ่งสามารถให้ผลที่ไม่ดี มีทุกข์ในอบาย เป็นต้น ต่อไป
- กิเลสที่แม้จะไม่รุนแรงถึงขั้นล่วงอกุศลกรรม แต่ก็จะสะสมพืชเชื้อของกิเลสนั้นๆ ในจิตให้เพิ่มมากขึ้น และสามารถทำให้เกิดกิเลสที่มีกำลังมากขึ้นจนทำอกุศลกรรมต่อไปได้
* กิเลสร้ายที่เป็นอันตรายที่สุด ที่ต้องดับก่อน ก็คือความเห็นผิด (ทิฏฐิเจตสิก) เพราะทำให้เห็นผิดจากความเป็นจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จึงไปในทางผิด และทำลายพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นโทษอย่างยิ่ง เช่น คิดและสอนกันว่าการปฏิบัติธรรม คือให้ทำ ให้จดจ้อง ด้วยความเป็นตัวตน ซึ่งค้านกับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่มีใครที่จะไปทำอะไรได้เลย แต่เป็นธรรมที่ทำกิจของธรรมนั้นๆ
* จะพ้นภัยจากกิเลสได้ ก็ต้องอาศัยการฟังพระธรรม อบรมปัญญา รู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณ และยินดีในกุศลค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ