สวัสดีครับ
พอดีมีข้อสงสัยครับ คือการกล่าวล้อเล่นกับเพื่อนด้วยคำสรรเสริญความตาย เช่น กล่าวว่า "อยู่แล้วลำบาก อยู่ทำไมตายดีกว่า" หรือ "รู้ไหมถ้าไม่อยากเจ็บป่วยตอนแก่ทำไง ก็ชิงตายก่อนแก่ไง จะได้ไม่ต้องป่วย" หรืออื่นๆ ฯลฯ ด้วยประสงค์จะล้อเล่น พูดเล่น หลอกล้อกัน
ภายหลังในอนาคตถ้าเกิดเขาประสบความลำบากอะไรอยู่ เกิดระลึกถึงคำพูดเหล่านี้ แล้วถือเอาจริง เห็นดีเห็นงามด้วย ว่า เออ คำนี้จริงเราลำบาก จะอยู่ไปทำไม เอ้า ตายดีกว่า แล้วก็ตัดอาหาร หรือกระทำตนให้สิ้นชีวิต ผู้กล่าวล้อเล่น จะมีปาณาติบาตติดตัวหรือไม่ครับ
เจตนาพูดล้อเล่น ไม่ใช่มีเจตนาฆ่า จึงไม่เป็นปาณาติบาตแต่อย่างใด แม้ผู้นั้นจะระลึกคำของเราและถึงแก่ความตายก็ตาม เพราะฉะนั้น บาปไม่บาป สำคัญที่เจตนาเป็นสำคัญครับ
เรื่อง บาปไม่บาปอยู่ที่เจตนาเป็นสำคัญ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 103
[พระโมคคลีบุตรติสสเถระอ้างพระพุทธพจน์เล่าอดีตนิทาน]
ลำดับนั้น พระเถระ (ถวายวิสัชนา) ให้พระราชาทรงเข้าพระทัย เนื้อความนี้ด้วยพระสูตรนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม บุคคลคิดแล้ว จึงกระทำกรรมด้วยกาย วาจา ใจ๑ ดังนี้. เพื่อแสดงเนื้อความนั้นนั่นแล พระเถระจึงนำติดติรชาดกมา (เป็นอุทาหรณ์) ดังต่อไปนี้.
ขอถวายพระพร มหาบพิตร ในอดีตกาล นกกระทาชื่อ ทีปกะ เรียนถามพระดาบสว่า
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ นกเป็นอันมากเข้าใจว่า ญาติของพวกเราจับอยู่แล้ว จึงพากันมา นายพรานอาศัยข้าพเจ้า (นกต่อ) ย่อมถูกต้องกรรม เมื่อนายพรานอาศัยข้าพเจ้าทำบาปนั้น ใจข้าพเจ้า ย่อมสงสัย ว่า (บาปนั้นจะมีแก่ข้าพเจ้า หรือหนอ)
พระดาบส ตอบว่า ก็ท่านมีความคิด (อย่างนี้) หรือว่า ขอนกทั้งหลายเหล่านี้มา เพราะเสียง และเพราะเห็นรูปของเราแล้วจงถูกแร้ว หรือจงถูกฆ่า
นกกระทา เรียนว่า ไม่มี ท่านผู้เจริญลำดับนั้น ดาบสจึงให้นกกระทานั้นเข้าใจยินยอมว่า ถ้าท่านไม่มีความคิดไซร้ บาปก็ไม่มี แท้จริง กรรมย่อมถูกต้องบุคคลผู้คิดอยู่เท่านั้น หาถูกต้องบุคคลผู้ไม่คิดไม่ ถ้าใจของท่าน ไม่ประทุษร้าย (ในการทำความชั่ว) ไซร้ กรรมที่นายพรานอาศัยท่านกระทำ ก็ไม่ถูกต้องท่าน บาปก็ไม่ติดเปื้อนท่าน ผู้มีความขวนขวายน้อยผู้เจริญ (คือบริสุทธิ์)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมที่เป็นอกุศลธรรม จึงมีคำพูดที่ไม่เป็นประโยชน์อย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นการพูดเล่น หรือคำพูดใดๆ ก็ตาม ถ้ามาจากอกุศลจิตแล้ว ไม่ใช่คำที่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย แต่ก็มีกำลังที่แตกต่างกัน และถ้าไม่มีเจตนาที่จะให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก็ไม่ใช่การฆ่าผู้อื่น
การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นของยาก เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีชีวิตที่ลำบากยากเข็ญสักเพียงใด แต่ถ้าหากว่ามีโอกาสที่จะได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา นั่นย่อมเป็นชีวิตที่มีค่าเป็นอย่างมาก เพราะเหตุว่าตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีโอกาสที่จะได้เจริญกุศลประการต่างๆ รวมถึงการอบรมเจริญปัญญาด้วย ไม่มีใครสามารถทราบได้ว่าเมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว จะไปเกิดในภพภูมิใด ถ้าหากไปเกิดในอบายภูมิ ย่อมหมดโอกาสที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม พิจารณาพระธรรม ไม่มีโอกาสที่จะอบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ ฉะนั้นแล้ว ทุกๆ วันจึงเป็นโอกาสที่ดี ที่จะทำชีวิตที่ยังมีอยู่ ยังเหลืออยู่นี้ ให้เป็นชีวิตที่มีค่ามากที่สุด ด้วยการทำดี และศึกษาพระธรรมให้เข้าใจครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ