อะภิธัมมิกะภิกขูเยวะ กิระ ธัมมะกะถิกา นามะ กัมมัฏฐานาจะริยา นามะ อะวะเสสา น ธัมมะกะถิกา ฯ กิระ ทราบว่าท่านผู้ทั้งรู้ธรรมและบอกธรรมได้แท้จริง อะภิธัมมิกะภิกขูเยวะ คือพระสงฆ์หรือฆราวาสผู้รู้อภิธรรม ผู้ได้ศึกษาอภิธรรมทั้ง ๗ คัมภีร์ ผู้สามารถล่วงรู้ถึงรูปธาตุและนามธาตุกล่าวคือ จิต เจตสิก และรูปนั้นเท่านั้น ธัมมะกะถิกา นามะ จึงได้ชื่อว่า "เป็นผู้กล่าวธรรม" หรือแสดงธรรม กัมมัฏฐานาจะริยา นามะ เป็นอาจารย์ผู้กล่าวสอนกรรมฐาน อะวะเสสา นอกจากผู้ที่ได้ศึกษาเรียนรู้พระอภิธรรมแล้ว น ธัมมะกะถิกา ไม่จัดว่าเป็นผู้กล่าวธรรม สั่งสอนธรรม
...ขออนุโมทนาครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การที่จะเป็นผู้เข้าใจธรรม เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้นั้น ต้องอาศัยการฟังการศึกษาจากกัลยาณมิตรผู้ที่มีปัญญา มีความเข้าใจธรรมตรงตามความเป็นจริงของสภาพธรรม กัลยาณมิตรสูงสุด คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บุคคลผู้เลิศผู้ประเสริฐสูงสุดที่อุบัติขึ้นมาในโลกเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายอย่างแท้จริง เมื่อมีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว เป็นผู้ที่เห็นว่าพระธรรมละเอียดลึกซึ้ง ถ้าไม่มีการกล่าว ไม่มีการแสดง ไม่มีการเปิดเผยแล้ว คนอื่นก็จะไม่มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาได้เข้าใจธรรมอันละเอียดลึกซึ้งนั้น จึงแสดงธรรมแสดงสิ่งที่มีจริง ตรงตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพื่อประโยชน์ คือความเข้าใจถูกเห็นถูก แก่ผู้อื่นตามกำลังปัญญาของตนเอง
การที่จะเป็นผู้แสดงธรรม เป็นผู้กล่าวธรรม กล่าวสอนธรรม ให้ธรรมทาน หรือแม้กระทั่งเป็นผู้บอกกรรมฐาน (ซึ่งก็คือการแสดงธรรมเพื่อประโยชน์แก่การอบรมเจริญความสงบของจิตและการอบรมเจริญปัญญา) ล้วนจะต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องจากการที่จะได้ฟังได้ศึกษาพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงทั้งนั้น แต่ถ้าไม่ได้มีความเข้าใจอย่างถูกต้องตามความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่สามารถอนุเคราะห์เกื้อกูลด้วยการให้ความเข้าใจถูกเห็นถูกแก่ผู้อื่นได้เลย ยิ่งถ้าไม่มีความเข้าใจอย่างถูกต้องหรือมีความเห็นผิดแล้ว การเผยแพร่ก็ย่อมจะเป็นไปตามความเห็นที่ผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่ตรงตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง นั่นเป็นอันตรายอย่างยิ่งทีเดียว
ดังนั้น การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วยความละเอียดรอบคอบ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ครับ
..ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จากข้อความที่ผู้ร่วมสนทนายกมานั้น แสดงถึงนัยที่ว่า ผู้ที่สามารถรู้ เข้าใจอภิธรรมเท่านั้นชื่อว่าเป็นผู้กล่าวสอน เป็นธรรมกถึกได้ แต่ควรเข้าใจให้ละเอียดครับ ว่า การเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้อง ไม่ใช่เพียงพระอภิธรรมที่เป็น จิต เจตสิก และรูปเท่านั้น ผู้ที่กล่าวสอนธรรมตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง จะต้องมีความเข้าใจถูกทั้ง ๓ ปิฎก ทั้งพระสูตรและพระวินัย โดยสอดคล้องกับพระอภิธรรมเป็นสำคัญด้วยครับ
การเข้าใจพระอภิธรรมที่ถูกต้อง จึงใม่ใช่เรื่องของการจำชื่อว่าสามารถกล่าวสอนได้ว่ามี จิต เจตสิก และรูป เท่าไหร่ มีปัจจัยอะไรบ้าง เป็นต้น แต่ผู้ที่กล่าวสอนด้วยความเข้าใจ หรือผู้ที่ศึกษาพระอภิธรรมด้วยความเข้าใจ คือเข้าใจความจริงว่าพระอภิธรรม ก็คือ ความจริงในชีวิตประจำวัน ที่เป็นสภาพธรรม ที่เป็นอภิธรรม ธรรมที่ยิ่ง ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ ซึ่งก็คือ จิต เจตสิก และรูป เป็นต้น ที่กล่าวสอนหรือเข้าใจ ว่า การเข้าใจพระอภิธรรม เข้าใจตัวอภิธรรม ก็ด้วยการรู้ความจริงที่เป็นพระอภิธรรมในขณะนี้นั่นเองครับ และอาศัยการศึกษาพระสูตรด้วย จะเป็นผู้ขัดเกลากิเลสในชีวิตประจำวัน ในการมีสัตว์ บุคคล เป็นอารมณ์ มีความเมตตา และกุศลประการอื่นๆ
และเมื่อศึกษาพระวินัย ก็เห็นโทษของกิเลสขั้นหยาบ ก็งดเว้นจากอกุศลทางกาย วาจาที่ไม่ดี ในชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น พระธรรมทุกบท ทุกส่วนของพระไตรปิฎก มีประโยชน์และสำคัญทั้งสิ้น ไม่เพียงเฉพาะพระอภิธรรมเท่านั้น
ดังนั้น สำคัญที่ความเข้าใจ ผู้ที่เป็นผู้กล่าวสอน เป็นธรรมกถึก จึงต้องมีความเข้าใจถูก สอดคล้องทั้ง ๓ ปิฎก และที่ลืมไม่ได้ คือเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงด้วย ครับ
ซึ่งจะขอกล่าวถึง องค์พระธรรมกถึกที่ถูกต้องนั้นคืออย่างไรครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ
ธรรมกถึกสูตร ... คุณธรรมของพระธรรมกถึก
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ