เมื่อได้ฟังพระธรรมจึงได้เข้าใจความจริงว่า แท้ที่จริง สิ่งที่เคยยึดถือว่าเป็นเราก็เป็นเพียงจิต เจตสิก และรูป ที่เกิดดับสืบต่อไม่ขาดสาย เกิดขึ้นแล้วดับไป ไม่ใช่ของใครเลย แต่ละขณะก็ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตนเลย ทุกอย่างเป็นธรรมะ ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เป็นอนัตตา ขณะที่ล่วงไปแล้วก็ไม่สามารถกลับมาได้อีกเลย เมื่อวานนี้มีเห็น มีได้ยิน...มีคิดนึก ดับไปหมดแล้ว เมื่อเช้านี้ก็มีเห็นมากมาย ดับหมดไม่มีอะไรเหลือ มีประโยขน์อะไรที่จะไปเยื่อใย หรือหาสาระกับสิ่งที่หมดไปแล้ว ไม่กลับมาอีกเลย...
ขณะนี้มีเห็น มีได้ยิน...มีคิดนึก มีอิจฉา มีความติดข้อง มีโกรธ มีตระหนี่.......เป็นของจริงที่ควรศีกษาพิจารณาให้เข้าใจ สติสามารถที่จะระลึกได้ ทุกอย่างที่กำลังปรากฏขณะนี้เป็นของจริง เป็นธรรมะ
ทางตาระลึกบ้างหรือเปล่า?
ไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว....จนกว่าจะเป็นอย่างนั้น
ขออนุโมทนาค่ะ...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณและอนุโมทนาครับ
" ทุกอย่าง ...ที่กำลังปรากฏขณะนี้ ...เป็นของจริง ....เป็นธรรมะ "
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตาครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ