[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 341
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า :-
ธรรมเทพบุตรมีขันติเป็นกำลัง ชนะอธรรมเทพบุตร ผู้มีกำลังในการรบ ทำอธรรมเทพบุตร ฝังไว้ในแผ่นดิน. ธรรมเทพบุตรเป็นผู้มีกำลังยิ่งไม่ล่วงสัจจะ ดีใจขึ้นรถไปตามนั่นเอง.
อธรรมเทพบุตรในครั้งนั้น ได้เป็นเทวทัตในครั้งนี้. บริวารของอธรรมเทพบุตร คือบริษัทของเทวทัต. ธรรมเทพบุตร คือพระโลกนาถ. บริวารของธรรมเทพบุตร คือพุทธบริษัท.แม้ในธรรมเทวปุตตจริยานี้ ก็พึงเจาะจงกล่าวถึงบารมีที่เหลือตามควร โดยนัยดังกล่าวแล้วในหนหลังนั่นแล. อนึ่ง แม้ในจริยานี้ ก็พึงประกาศคุณานุภาพแห่งพระมหาสัตว์ มีอาทิอย่างนี้ คือ การที่เมื่อพระมหาสัตว์เปี่ยมพร้อมด้วย อายุ วรรณะ ยศ สุข และความเป็นใหญ่อันเป็นทิพย์ ด้วยกามคุณอันยิ่งใหญ่เป็นทิพย์เหมือนกัน อันนางอัปสร ๑,๐๐๐ บำเรออยู่ตลอดกาล น่าจะตั้งอยู่ในความประมาทอย่างใหญ่ แต่มิได้ถึงความประมาทแม้แต่น้อย แสดงธรรมในวัน ๑๕ ค่ำทุกๆ เดือนด้วยหวังว่า จักยังโลกัตถจริยาให้ถึงที่สุด พร้อมด้วยบริวารเที่ยวไปในทางของมนุษย์ ยังสรรพสัตว์ให้เว้นจากอธรรม แล้วประกอบในธรรมด้วยมหากรุณา การที่พระโพธิสัตว์แม้พบกับอธรรมเทพบุตร ก็มิได้คำนึงถึงความไร้มารยาทที่อธรรมเทพบุตรแสดงออกมา ไม่ทำจิตให้โกรธในอธรรม-เทพบุตรนั้น ยังขันติ เมตตาและความเอ็นดูเท่านั้นให้ตั้งอยู่ แล้วรักษาศีลของตนมิให้ขาด และให้บริสุทธิ์เป็นอย่างดี.
จบ อรรถกถาธรรมเทวปุตตจริยาที่ ๘
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ