เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ก.พ 52 มูลนิธิบ้านธัมมะงดการบรรยายธรรม เพราะท่านอาจารย์
สุจินต์และคณะไปอินเดีย เพื่อนจึงชวนไปไหว้พระที่อยุธยา มีสมาชิกไปด้วยกัน 10 คน
ปรากฎว่าดิฉัน Accident เรื่องส่วนตัวไปไม่ได้ ทำให้สมาชิกที่คุ้นเคยกับดิฉันพลอย
ยกเลิกไม่ไปด้วย จึงเหลือ 6 คน ทำให้คิดถึง เรื่องเหตุปัจจัย ว่าเพราะอะไรหนอ เรา
ตั้งใจจะไปทำบุญ ยังมีเหตุทำให้ไม่ได้ไป และรวมคนอื่นๆ อีก 3 คนด้วย คิดไปคิดมา
ก็เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ และไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ
สำหรับชีวิตเรา วางแผนไว้อย่างดี พอถึงเวลากลับไม่เป็นอย่างที่คิด อะไรๆ ก็ไม่เที่ยง
เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ได้แต่อนุโมทนากับสมาชิกที่ได้ไปไหว้พระ และฝากเงินไป
ทำบุญ ฝากข้อคิดไว้สำหรับสมาชิกทั้งหลาย ถ้าพบเหตุการณ์ใดที่ไม่คาดคิด ก็จง
เตรียมใจให้พร้อม เพราะสิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็นธรรมะ เมื่อมีเหตุปัจจัยก็เกิดและ
ก็ดับไปเป็นธรรมดา
ขออนุโมทนาค่ะ
วันอาทิตย์ที่ ๒๒ ไม่มีการสนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ เลยมีเพื่อนชวนผมไปตีกอล์ฟ ตีได้เกือบสามรอบคือ ๒๕ หลุม สามรอบมี ๒๗ หลุม ก็มีธรรมเกิดมากมายมีทั้งโทสะ โลภะเกิดสลับกัน ไปตีกอล์ฟก็มีธรรม ไปไหว้พระก็มีธรรม accident ก็เป็นธรรม อยู่บ้านก็มีธรรม ไปอินเดียก็มีธรรม อยู่ไหนๆ ก็มีธรรม อยู่ที่สติจะระลึกหรือไม่ ครับ
ไม่มีตัวตนที่จะไประลึก ต้องฟังให้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลัง
ปรากฎ เมื่อมีความเข้าใจที่มั่นคงขึ้น เมื่อนั้นปัญญาจะทำกิจของปัญญา
เป็นปัจจัยให้สติเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามที่ได้เข้าใจค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๒ ก.พ. ๒๕๕๒ ทางมูลนิธิงดการบรรยายธรรม และคืนวันเสาร์ตั้งใจว่าจะตื่นมาฟังธรรมตอนเช้าแต่ก็ตื่นสาย การตื่นสายก็เป็นธรรม และช่วงเที่ยงครึ่งได้เปิดวิทยุฟังธรรมก็เกิดมีคลื่นแทรกทำใหรับฟังไม่ได้ คลื่นแทรกเป็นเหตุปัจจัย ถ้าหากรู้ก็จะทำให้ไม่เกิดโลภะ โทสะ โมหะ เพราะมีเหตุจึงต้องมีผล และเป็นธรรมะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ขออนุโมทนาด้วยค่ะ ในชีวิตประจำวันก็มี สภาพธรรม เกิดดับสลับกันตลอด เวลา แต่เราไม่สามารถรู้ลักษณะสภาพธรรม ณ ขณะนั้น มารู้เมื่อพิจารณาตาม หลังทุกทีเลย