ขอถามบ้านธัมมะครับ ผมได้ทราบมาอย่างนี้ว่าสติปัฏฐาน ไม่ได้เกิดตลอดทุกขณะจิต แม้ในพระอริยบุคคลก็ตาม เพียงแต่ในจิตของพระอรหันต์ดับกิเลสทุกชนิดหมดแล้ว ไม่มีตัวตนต่อไป ไม่ต้องศึกษาอีกต่อไป ท่านเป็นอเสกขบุคคลแล้ว แต่ปุถุชน หรือเสกขบุคคล ย่อมยังมีตัวตนอีกค่ะ จนกว่า จะศึกษาจนสามารถดับกิเลส ดับทิฏฐานุสัย และมานานุสัยได้หมด
การยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวตนของเรา มีการยึดถือต่างกัน เป็นสามประเภท คือ ด้วยตัณหา ด้วยมานะ และด้วยทิฏฐิ ผู้ที่จะดับกิเลสทั้งสามประเภทนี้หมดไม่เกิดอีกเลย ต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้น สำหรับพระโสดาบัน ดับการยึดถือสภาพธรรมเป็นตัวตนด้วยทิฏฐิทั้งหมด
ถามบ้านธัมมะครับ พระอรหันต์ มีจิต ๒ ชาติ คือ วิบาก กิริยา มีสติเกิดร่วมด้วยไหมครับ เป็นสติปัฏฐานตลอดเวลาไหมครับ โลกุตระจิต ๘ ดวงมีอะไรบ้าง แต่ละดวงสัมปยุตด้วยเจตสิกอะไรบ้าง โปรดอธิบายให้เข้าใจ
พระอรหันต์มีจิต ๒ ชาติ ชาติวิบากกับชาติกิริยา มีสติเกิดร่วมด้วยก็มี ไม่มีสติเกิดร่วมด้วยก็มี เช่น จิตเห็นของพระอรหันต์ไม่มีสติเกิดร่วมด้วยค่ะ
โลกุตระจิต มี ๘ ดวงคือ
1. โสดาปัตติมรรค
2. โสดาปัตติผล
3. สกทาคามีมรรค
4. สกทาคามีผล
5. อนาคามีมรรค
6. อนาคามีผล
7. อรหัตตมรรค
8. อรหัตตผล
มีโสภณเจตสิกเกิดร่วมด้วย และมีอัญญสมานาเจตสิกเกิดร่วมด้วยค่ะ
เชิญคุณ wannee.s แสดงความคิดเห็นต่อไปครับ
ขอเสริมคำตอบคุณวรรณีครับว่า โดยละเอียด จิตของพระอรหันต์บางขณะก็ไม่มีสติเกิดร่วมด้วย คือ ขณะที่จิตของท่านเป็นอเหตุกจิต มีขณะที่เห็น ได้ยิน รู้กลิ่น เป็นต้น แต่ถ้าว่าโดยรวม พระอรหันต์ดับอกุศลได้ทั้งหมดแล้ว จึงกล่าวว่าพระอรหันต์ไม่หลงลืมสติ พระอรหันต์มีสติสมบูรณ์ โลกุตตรจิต ๘ มีเจตสิกเกิดร่วมด้วย ๓๖ ประเภท คืออัญญสมานาเจตสิก ๑๓ โสภณเจตสิก ๒๓ (เว้นอัปปมัญญา ๒) โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในพระอภิธรรมัตถสังคหะครับ
ขออนุโมทนาครับ ผมหายสงสัยครับ แล้วผมจะศึกษาเพิ่มเติมต่อไปครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ