มีโอกาสได้ฟังการบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์เรื่องจิตปรมัตถ์ มีท่านผู้ฟัง ถามเรื่อง อริยบุคคล โสดาปัตติมรรต-โสดาปัตติผล แต่คำตอบดิฉันยังไม่ค่อย เข้าใจคะ
คืออยากทราบว่า บุคคลโสดาปัตติมรรค เป็นแค่ชั่วขณะจิตเดียวหรือค่ะ เพราะผลนั้นเกิดต่อโดยไม่มีภวังค์จิตขั้น ความหมายก็คือ สมมติว่ามีพระโสดาบันในขณะนี้ บุคคลทั่วไปจะรู้จักได้ก็เฉพาะท่านที่เป็นโสดาปัตติผลใช่หรือ ไม่ เพราะช่วงเวลาของโสดาปัตติมรรคสั้นเกินกว่าบุคคลทั่วไปจะสัมผัสได้
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
โสตาปัตติมรรคเกิดขณะเดียว ไม่เกิดอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ ส่วนโสตาปัตติผลเกิดขึ้น หลายขณะได้ เช่น ผู้เข้าผลสมาบัติ ผลจิตของพระอริยเกิดต่อกันหลายขณะ บุคคลทั่วไปที่เป็นปุถุชน รู้ว่าใครเป็นพระอริยะระดับไหนไม่ได้ แต่พระอริยะกับพระอริยะด้วยกันย่อมรู้กันได้ แต่โดยมากเมื่อกล่าวถึงองค์คุณของพระโสดาบัน บุคคล ตามพระธรรมมีว่า ผู้ที่มั่นคงในพระรัตนตรัย มีศีลบริสุทธิ์ มีความไม่ ตกต่ำเป็นธรรมธรรมดา เป็นผู้แน่นอนที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า ว่าเป็นพระโสดาบัน
สมดังข้อความในพระสูตรว่า ..
ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่..
องค์คุณของพระโสดาบัน [โอคธสูตร]
ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่
ผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ [กาฬิโคธาสูตร]
โสดาปัตติมรรค เกิดขึ้นครั้งเดียวประหานกิเลส และกิเลสนั้นจะไม่เกิดอีกเลยใน สังสารวัฏฏ์เช่น ละความเห็นผิด ข้อปฏิบัติผิด ไม่ล่วงศีล 5 มีศีล 5 บริสุทธิ์ ฯลฯ ท่านละกิเลสขั้นหยาบที่จะนำไปสู่อบาย
ขอบคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
บุุคลจะรู้จักพระโสดาบันได้ แม้ในขณะ โสดาปัตติมรรค หรือ โสดาปัตติผล ต้อง เป็นพระอริยบุคคลขั้นสูงหรือเทียบเท่าและประกอบด้วย อภิญญา สามารถรู้จิตได้ ครับ ปุถุชนไม่มีทางรู้
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอบคุณคุณแล้วเจอกันมากค่ะ จริงๆ ยังสงสัยอยู่ค่ะ คือทราบอยู่ค่ะว่าปุถุชนไม่อาจ รู้ค่ะ เพียงแต่สมมติเพื่อจะถาม ซึ่งยังไม่ได้คำตอบที่ตรงกับคำถามค่ะ อาจเพราะ ตัวดิฉันสื่อความไม่ได้กับสิ่งที่อยู่ในใจ คือ เข้าใจอริยบุคคลที่เป็นโสดาปฏิผลค่ะ เพราะเมื่อตัดสังโยชน์ 3 ข้อเป็นสมุเฉจแล้ว ท่านก็ดำรงเป็นโสดาปฏิผลอย่างนั้นไปเรื่อย แต่มีคำถามที่โสดาปฏิมรรค เพราะในบทสวด หรือบทที่ทำวัตรบอกการ ถวายความเคารพคู่ของบุรุษ 4 คู่ ทีนี้สงสัยตอนที่เป็น โสดาปฏิมรรค สกทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตตมรรคว่า อริยบุคคลเหล่านี้เป็นอยู่ช่วงขณะจิตเดียว ใช่ไหม เพราะหลังจากนั้นท่านจะกลายเป็น โสดาปฏิผล สกทาคามิผล เพราะการเสวยผลจะไม่มีภวังค์คั่น
นี่ค่ะคือคำถาม ยาวไปหรือเปล่าค่ะ สื่อความได้หรือเปล่าคะ อยากได้คำตอบมากๆ ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ใช่ครับ โสดาปัตติมรรค สกทาคามีมรรค อนาคามีมรรค อรหัตตมรรค เกิดขึ้น เพียงขณะเดียวเท่านั้น แล้วจะไม่เกิดอีกเลย และเมื่อเกิดขึ้น เช่น โสดาปัตติมรรค เกิดขึ้นดับไปแล้ว (เกิดขณะเดียว) โสดาปัตติผลต้องเกิดต่อทันที ไม่มีระหว่างคั่น ไม่มีภวังค์คั่น หรือ จิตอื่นคั่นครับ ต้องเป็นโสดาปััตติผลเกิดต่อทันทีครับ โดย นัยเดียวกัน สกทาคามีมรรค เกิดขึ้นและดับไป สกทาคามีผล ก็เกิดต่อทันที ดัง นัยที่ได้อธิบายแล้วครับ สรุปคือ โสดาปัตติมรรค สกทา อนาคา อรหัตตมรรค เกิด ขึ้นขณะเดียวเท่านั้น แล้วดับไป โสดาปัตติผล สกทา อนาคา อรหัตตผล ก็เกิดต่อ ทันทีไม่มีระหว่างคั่น ในบทส่วนถึงมีคำว่า อกาลิโก คือ ไม่ประกอบด้วยกาล คือ มรรคจิตเกิดแล้วผลจิตเกิดต่อทันที จึงเป็นอกาลิโก ไม่ประกอบด้วยกาลครับ ต่างจากกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมที่เราทำ ย่อมให้ผลในชาตินี้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ ขณะเดียวที่ดับแล้วเกิดต่อดังเช่น มรรคจิตและผลจิตครับ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เข้าใจชัดเจนแล้วค่ะ กราบขอบพระคุณมากๆ ค่ะ