ข้อความบางตอนจาการสนทนาธรรมโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
สำหรับผู้ที่สั่งสมอุปนิสสัยมายังไม่ควรแก่การที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ย่อมไม่สามารถที่จะรู้แจ้งลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏอยู่ เมื่อไรจะเห็หแก้วน้ำที่วางอยู่เป็นแต่เพียง รูปารมณ์ คือ สี่่งที่ปรากฏทางตา ตามความเป็นจริง ทุกคนต้องเป็นผู้ที่ตรง เมื่อไรจะแห็นสี่งที่กำลังปรากฏ ว่าเป็นคน เป็นสัตว์ต่างๆ กำลังเคลื่อนไหว กำลังยืน เดินบ้าง นั่งบ้าง นอนบ้าง เหล่านี้ เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่ปรากฏทางตาซึ่งความจริง ก็เป็นเพียงสภาพธรรมที่ปรากฏทางตาเท่านั้น ลองคิดดูสิ ลองคิดจนกระทั่งหยั่งไปจนถึงว่าลักษณะจริงๆ ที่เป็นเพียงสภาพธรรมที่ปรากฏทางตา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน นั้น คืออย่างนี้ ในขณะนี้เอง แต่ถ้าสติปัฏฐานไม่เกิด ก็ยังสงสัยอยู่นั่นเอง ว่าสภาพธรรมที่เป็นเพียงสี่งที่ปรากฏทางตา นั้นจะเป็นได้อย่างไร ในเมื่อในขณะนี้ เป็นแก้วน้ำอยู่นี่ ก็แสดงให้เห็นแล้วนะว่า กว่าสติและปัญญาจะเจริญขึ้น ต้องอาศัยกาลเวลา ซึ่งรวมทั้งปัญญา และ ความเพียรจริงๆ
ธรรมมีอยู่ตลอดเวลา ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ธรรมเกิดแล้วปรากฏ ไม่มีใครทำ มีปัจจัยจึงเกิด...แต่ขณะนี้มีแต่ความไ่ม่รู้ในความจริงในสิ่งที่ปรากฏ
การศึกษาธรรมต้องเป็นผู้ตรง คือควรรู้ตนเองอย่างถูกต้องว่ายังไม่รู้ ความไม่รู้ก็เป็นธรรม เพราะความไม่รู้มีมาก ยาวนาน ปกปิดไม่ให้รู้ ผู้จะรู้ได้ต้องมีการอบรมเจริญความรู้ จากการฟังพระธรรม พิจารณาพระธรรม ทุกครั้งที่ได้ยินไ้ด้ฟังแต่ละครั้งแตกต่างกัน คือเริ่มจากไม่เคยได้ยินได้ฟัง เป็นได้ยินได้ฟ้ง การได้ฟังครั้งแรกๆ ก็ต่างจากการได้ฟังในครั้งต่อๆ ไป ความรู้ความเข้าใจย่อมเกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ไม่ง่ายเลย ต้องอาศัยความ เีพียรในการฟังบ่อยๆ ความรู้ความเข้าใจจะค่อยๆ เจริญขึ้น
เมื่อยังไม่รู้ยังไม่เข้าใจในความจริงที่กำลังปรากฏก็ควรรู้จักตนเองตามความเป็นจริงและอดทนต่อการเจริญความรู้ความเข้า่ใจจากการฟังต่อไป
ขออนุโมทนาครับ