มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
ในที่สุดขณะที่แสนสั้น เกิดขึ้นทีละขณะก็ผ่านไปแล้วถึง 11 วัน สภาพธรรมที่ปรากฏที่ญาจางและซกเล็ทหมดไปดับไป ไม่กลับมาอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ เหลือไว้แต่ความทรงจำที่จะค่อยๆ ลบเลือนหายไปเช่นเดียวกัน จนสุดท้ายเมื่อสิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้ความทรงจำนี้ก็ดับหมดไป ทิ้งไว้แต่กุศลและอกุศลที่สะสมอยู่ในจิตเช่นเดียวกับชวนจิตขณะอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยให้เกิดเป็นบุคคลใหม่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด จนกว่าจะประจักษ์แจ้งความจริงของสรรพสิ่งตามที่ทรงแสดงไว้
สนทนาธรรมวันสุดท้ายที่ญาจางทั้งเช้าและบ่ายก็ยังเข้มข้นเหมือนเดิม ส่วนใหญ่เปิดโอกาสให้ผู้ฟังใหม่ถามปัญหาเกี่ยวกับการทำสมาธิที่สำนักปฏิบัติที่แต่ละคนมีประสบการณ์ ท่านอาจารย์บอกว่า การทำตามอาจารย์บอกไม่ใช่คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพระไตรปิฎกเมื่อมีผู้ไปเฝ้าทูลถามปัญหา หรือทรงแสดงธรรมก็ไม่ได้ตรัสบอกให้ใครทำอะไร มีแต่ทรงแสดงธรรมเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ ทรงตรัสถามว่า เห็นเที่ยงไหม ... ซึ่งพระภิกษุเหล่านั้นท่านสะสมความเข้าใจความจริงของสิ่งที่ปรากฏขณะนั้น พิจารณาตาม ประจักษ์แจ้งว่า เห็นไม่เที่ยง ...ทรงถามต่อว่า สิ่งที่ไม่เที่ยงเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ เมื่อพระภิกษุตอบว่า เป็นทุกข์ ทรงถามต่อไปว่า สิ่งที่เป็นทุกข์มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรละหรือที่จะยึดถือว่า เป็นของของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เมื่อตอบว่า ไม่ควร พระเจ้าข้า ทรงแสดงต่อว่า รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งไม่เที่ยง เป็นทุกข์ จึงเป็นอนัตตา ควรรู้ตามความเป็นจริงอย่างนี้ ซึ่งมีรายละเอียดในอนัตตลักขณสูตรที่ทรงแสดงครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันหลังทรงแสดงธัมมจักกัปปวตนสูตรได้ 5 วัน และพระปัญจวัคคีย์ทั้งหมดบรรลุเป็นพระอรหันต์ ซึ่งท่านอาจารย์นำพระสูตรนี้มาอธิบายโดยละเอียดในภาษาของตน (คือ ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ) ทุกครั้งที่บรรยายธรรม ซึ่งสำหรับพวกเราที่สะสมความไม่รู้และความติดข้องมาแสนนาน แม้กำลังเห็นก็ยังไม่รู้จักเห็นตามความเป็นจริงว่า เห็นเป็นธรรมอย่างไร เห็นเป็นเห็น ไม่ใช่เราเห็นอย่างไร จึงต้องเริ่มอธิบายตั้งแต่เห็นซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าจะเข้าใจเห็นตามความเป็นจริง
มีผู้ฟังหญิงท่านหนึ่งมากับสามีเล่าว่าไปสำนักปฏิบัติมาหลายปี สงสัยตลอดเวลาว่า เข้าใจความจริงอะไรบ้าง คอยถามตัวเองและคนอื่นๆ เสมอ เมื่อได้มาฟังแค่ครึ่งวันเช้าก็เข้าใจแล้วว่า ความจริงต้องเป็นสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ และคิดว่าจะไม่ไปสำนักปฏิบัติอีกแล้ว และคนใหม่อีกหลายคนก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็ยังมีคนที่สะสมความเห็นผิดมาหนาแน่นจนยากจะเปลี่ยนแปลงแม้จะฟังมาก่อนใครๆ เธอบอกว่า สำนักปฏิบัติที่ไปก็เหมือนกับมาสนทนาธรรมกับท่านอาจารย์ที่นี่ คือ พระอาจารย์ก็แสดงธรรมอย่างนี้ พอท่านอาจารย์พูดว่า ถ้าไม่ได้แสดงความจริงของสิ่งกำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง ก็ไม่ใช่คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เธอย้อนกลับมาว่า นั่นเป็นข้อสรุปของท่านอาจารย์ และกับวิทยากรอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน เธอเลือกเวลาสอบถามตอนจะจบรายการ คำถามหลายข้อแสดงว่ายังไม่เข้าใจอะไรเลย เธอบอกว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ขั้นแรกต้องรู้สิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ แล้วขั้นต่อไปเมื่อเป็นพระโสดาบันแล้วต้องรู้อะไร หรือต้องทำอะไร เธอคิดว่าเมื่อยังมีกิเลสมากก็จำเป็นต้องไปสำนักปฏิบัติ อย่างนี้เป็นต้น
น่าเห็นใจความไม่รู้และความเห็นผิดที่ทำกิจให้แสดงกิริยาอาการไม่น่าเลื่อมใสได้อย่างนี้ เสียดายความรู้ภาษาอังกฤษที่สามารถเป็นล่ามแปลคำถามภาษาเวียดนามเป็นอังกฤษในการสนทนาธรรมเกือบทุกครั้งตั้งแต่ท่านอาจารย์ได้รับเชิญมาเวียดนามครั้งแรกที่ฮานอย เมื่อปี 2555 เพราะพูดออกมาจึงทำรู้ว่า ไม่เข้าใจอะไรเลย
และก็จบการสนทนาธรรมเมื่อใกล้ค่ำ ช่วยกันเก็บอุปกรณ์การถ่ายทอดสด อนุโมทนาน้องยุพินและน้องมารศรี รวมทั้งน้องไม ลูกสาวเวียดนาม ที่ช่วยกันถ่ายทอดสดจนสำเร็จบริบูรณ์ถึงวันสุดท้าย และทุกท่านที่ร่วมเดินทางต่างทำหน้าที่ของตนตามความสามารถและกุศลศรัทธา รวมทั้งน้องวันชัย ภู่งาม บุคคลสำคัญที่นำภาพที่ รศ. สงบ เชื้อทอง ส่งมาประกอบรายงานสดทำให้สมบูรณ์สวยงามทุกครั้ง
จบภารกิจในการเผยแพร่พระธรรมในเวียดนามของท่านอาจารย์อีกครั้ง และชมรมบ้านธัมมะเวียดนามได้เรียนเชิญอีก 2 ครั้งถัดไป คือ 21 ต.ค. 59 - 1 พ.ย. 59 ที่ฮานอยและซาปา และ 31 ม.ค. 60 - 14 ก.พ. 60 ที่ไซ่ง่อน ฮอยอัน และฮานอย ท่านอาจารย์บอกว่า น่ามาเวียดนามเพราะมีคนสนใจอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาก กราบเท้าอนุโมทนาท่านอาจารย์ที่ไม่ท้อถอยในการเผยแพร่ความจริงที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้และทรงแสดงไว้ดีแล้วให้แผ่ไพศาลต่อไป
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง
ขอเชิญคลิกชมตอนที่ผ่านมาทั้งหมดได้ที่นี่...
เมื่อสภาพธรรมปรากฏที่ญาจาง Nha Trang เวียดนาม 1
เมื่อสภาพธรรมปรากฏที่ญาจาง เวียดนาม 2
เมื่อสภาพธรรมปรากฏที่ญาจาง เวียดนาม 3
เมื่อสภาพธรรมปรากฏที่ญาจาง เวียดนาม 4
เมื่อสภาพธรรมปรากฏที่ญาจาง เวียดนาม 5
เมื่อสภาพธรรมปรากฏที่ญาจาง เวียดนาม 6
เมื่อสภาพธรรมปรากฏที่ญาจาง เวียดนาม 7
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่แดงและอาจารย์สงบที่ถ่ายทอดการสนทนาและบรรยายกาศที่ดีมากๆ ครับ
และขออนุโมทนาทุกๆ ท่านที่ร่วมการสนทนาด้วยครับผม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอกราบอนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณแม่แดงและทุกท่านๆ ที่ร่วมเดินทางไปเผยแผ่พุทธศาสนาแล้ว ยังเกื้อกูลส่งทั้งภาพ เสียงและเรื่องราวธรรมที่เป็นประโยชน์มาให้สมาชิกบ้านธัมมะที่นี้และขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิตของสหายธรรมชาวเวียดนามที่ร่วมสนทนาธรรมทุกๆ ท่านด้วยค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและอนุโมทนาคะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ