พระแม่องค์ธรรม มีจริงหรือไม่ครับ แล้วพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิม พระพุทธจี้กง เกี่ยวข้องอะไรกับเราชาวพุทธบ้างครับ บูชา หรือ เป็นพระผู้ควรนับถือหรือไม่ครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงปรินิพพานแล้ว พระองค์ไม่ไ่ด้ประทานให้ใคร ผู้ใด เป็นศาสดาแทนพระองค์ แต่ทรงให้ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นศาสดาแทนพระองค์ผู้ที่เป็นพุทธบริษัท จึงความเป็นผู้เคารพในพระธรรมด้วยการศึกษา ฟังพระธรรมที่พระพุทธองค์แสดงไว้อย่างถูกต้องครับ

ซึ่ง พระแม่องค์ธรรม ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้าที่แสดงไว้ และที่สำคัญ ในคำสอนของพระแม่องค์ธรรมนั้น ก็สอนว่าจะมีพระศรีอริยเมตไตรย์อีกไม่นาน มาช่วยโลกซึ่งในสัจจะความจริง การจะอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า พระศรีอริยเมตไตรย์ นั้น จะต้องอีกยาวนาน นับเวลาไม่ได้เลยครับ กว่าที่พระองค์จะอุบัติขึ้น คำสอนนั้นจึงไม่เป็นความจริงตามที่กล่าว ซึ่งขัดกับหลักที่พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ และในประเด็นของเจ้าแม่กวนอิน และ พระจี้กง คงไม่ต้องกล่าวว่ามีจริงหรือไม่มีจริง แต่ตัดสินที่เหตุผล คือ สิ่งที่สอนนั้น ถูกต้องตรงตามหลักสัจจะ ความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหรือไม่ครับ ซึ่ง จากคำสอนที่ได้ศึกษามาในพระโพธิสัตว์ฝ่ายมหายานนั้น แสดงว่า เมื่อบรรลุแล้วก็เป็นพระอรหันต์ ก็ยังสามารถกลับมาช่วยโลกมนุษย์ได้อีก ซึ่งขัดกับหลักพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า เมื่อดับขันธปรินิพพานแล้ว ย่อมไม่มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรมที่เป็นขันธ์อีกแลยครับ

ดังนั้น หากเราจะรู้ว่าสิ่งใด จริง ไม่จริงก็อาศัยพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ที่เป็นสัจจะ เทียบเคียงกับพระธรรมว่าถูกต้อง ตรงกันหรือไม่ หากไม่ตรง ไม่ถูกต้องก็ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า จึงไม่ใช่พระพุทธสาสนา เพราะไม่ใช่พระปัญญาที่พระองค์ได้ตรัสรู้ครับ ทุกสิ่งควรเทียบเคียงกับพระธรรม เพราะพระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ครับ

ขออนุโมทนา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

นี่คือ เหตุผลสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ที่เป็นชาวพุทธจะต้องได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วยความละเอียดรอบคอบ ซึ่งเป็นทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เข้าใจธรรมอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ไม่เข้าใจผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ทำให้มีความมั่นคงในความเป็นจริงมากขึ้น สิ่งใดผิด คือ ผิด สิ่งใดถูก คือ ถูก เมื่อเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ใครจะว่าอย่างไร (ในสิ่งที่ผิด) ก็จะไม่คล้อยตามในความเห็นที่ผิดนั้น พร้อมทั้งยังสามารถจะเกื้อกูลให้ผู้อื่นได้เข้าใจให้ถูกต้องตามความเป็นจริงได้ด้วยครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ขออนุโมทนาครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขออนุโมทนาในคำตอบของท่านผู้รู้ครับ

พอดีกระผมไม่ได้สนใจติดตามเรื่องแบบนี้ แต่พอเห็นคำว่า "พระแม่องค์ธรรม" เลยชักแปลกใจ ว่าในหมู่ชาวพุทธเรามีการใช้คำแบบนี้เรียกใครในพระพุทธศาสนาด้วยหรือ ดูท่าว่าจะไปกันใหญ่

จะเป็นอะไรไหมครับถ้าจะขอข้อมูลเกี่ยวกับ "พระแม่องค์ธรรม" เพื่อศึกษาดูว่าเขาใช้เรียกใครด้วยเหตุผลอะไร (เพื่อรู้เขา รู้เรา) จะได้แก้ไปให้ถึงต้นตอต้นเหตุจริงๆ แต่ถ้าเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ และไม่ก่อให้เกิดโทษ (มิจฉาทิฏฐิ) ก็แล้วไปเถิด

ขออนุโมทนากับท่านผู้รู้ครับ

เรียนความเห็นที่ 6 ครับ

จะขอยกข้อความ คำสอนที่ของพระแม่องค์ธรรมนะครับ ซึ่งผู้อ่านก็ต้องพิจารณา และไตร่ตรองว่าตรงกับพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหรือไม่ เช่น คำสอนที่ว่า จะส่งพระศรีอริยเมตไตรย์มา หรือ ยำเกรง ๓ ไตร่ตรอง ๙ สำรวม ๓ เป็นต้น ว่าตรงกับพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหรือไม่ครับ คำสอนมีดังนี้ครับ

บัดนี้กาลเวลาภัยพิบัติมาถึงแล้ว องค์ธรรมมารดาไม่อาจทนเห็นลูกๆ ถูกทำร้าย ดังนั้นจึงหย่อนสายทอง ลงไปชี้ทางสว่างเผยแผ่อนุตตรธรรมทั่วหล้า ส่งพระศรีอริยเมตไตรย์ ปกครองเทวจักร มอบอำนาจให้บัญชาเหล่าทวยเทพรวมทุกศาสนาให้เป็นธรรมที่เที่ยงตรงพระบรรพจารย์เทียนหยาน นิรมานกายของหลิงเมี่ยวเทียนจุนคุมธรรมจักรมอบอำนาจให้บัญชาเหล่าทวยเทพบนนิพพานไม่เหลือพุทธบุตร แดนปัจฉิมก็ไม่เหลือพระโพธิสัตว์ ล้วนลงมายังโลกช่วยเหลือธรรม “ใต้ฟ้าดินนี้มีเพียงพระบัญชาขององค์ธรรมมารดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้คล้อยตามย่อมเจริญรุ่งเรืองผู้ฝ่าฝืนย่อมย่อยยับ ซึ่งแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน”

ยำแกรงสาม

๑. ยำเกรงในพระโองการฟ้า

๒. ยำเกรงผู้มีคุณธรรม

๓. ยำเกรงโอวาทอริยะ

ไตร่ตรองเก้า

๑. ไตร่ตรองในการดู ให้รู้แท้

๒. ไตร่ตรองในการฟัง ให้รู้ชัด

๓. ไตร่ตรองสีหน้าตน ให้ดูดี

๔. ไตร่ตรองท่าทีของตน ให้นบนอบ

๕. ไตร่ตรองวาจา ให้พูดดี

๖. ไตร่ตรองเคารพงาน ให้ตั้งใจ

๗. ไตร่ตรองการถามไถ่ ให้ชัดเจน

๘. ไตร่ตรองอารมณ์โทสะ ให้ระงับ

๙. ไตร่ตรองสิ่งที่ได้ ให้รู้ควร

สำรวมสาม

๑. ความนึกคิด วันนี้ดีหรือไม่

๒. กับเพื่อนพ้อง ผิดคำสัตย์มีหรือไม่

๓. ทบทวนสิ่งที่เรียน ให้เข้าใจกระจ่างแจ้ง

ข้อห้ามสี่

๑. สิ่งไม่ควรพูด อย่าพลั้งเผลอ

๒. สิ่งไม่ควรมอง อย่ามอง สิ่งที่บัดสี

๓. สิ่งที่ไม่ควรฟัง อย่าฟัง คำอัปรีย์

๔. สิ่งไม่ควรทำ อย่าทำ ไร้จริยา

จากข้อความที่ยกมานั้น เป็นเพียงความคิดที่ไม่ตรงกับหลักพระธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ว่าการจะส่งพระศรีอริยเมตไตรย์มา เพราะกว่าพระองค์จะอุบัติขึ้นในโลก ต้องระยะอีกยาวนานนับไม่ได้ และ รวมถึงส่งเทพที่นิพพาน แล้ว ก็อีกเช่นกันผู้ที่ปรินิพพานแล้ว ไม่มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรมที่เป็นขันธ์ อีก จึงไม่มีการเกิดขึ้นอีกแล้วครับ รวมทั้งในเรื่อง ไตร่ตรอง ๙ ยำเกรง ๓ และ ข้อห้าม ๔ ก็ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า ก็เป้นเพียงหลักคิดของนักคิดที่สามารถคิดพิจารณาการกระทำในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นจริยธรรมที่ควรกระทำในสังคม ซึ่งลัทธิภายนอก เช่น ชงจื้อ เล่าจื้อก็เป็นแนวคิดทางจริยธรรมเช่นนี้ครับ แต่ไม่ได้ได้สืบไปหาเหตุให้ถึงการกระทำทำที่ไม่ดี คือ กิเลส ต้นเหตุ คือ อวิชชา และไม่แสดงหนทางดับทุกข์ที่แท้จริง คือ ดับกิเลสด้วยอริยรรคมีองค์ ๘ ครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยอธิบายคำว่า องค์ธรรม ด้วยค่ะ เพราะคำนี้ก็มีความหมายในทางอภิธรรม เพื่อความเข้าใจเพิ่มเติมค่ะ

เรียนความเห็นที่ 9 ครับ

คำว่า องค์ธรรม ที่ใช้ในภาษาของพระอภิธรรม หมายถึง ตัวปรมัตถธรรมของสภาพธรรมหรือ ตัวสภาพธรรมที่มีจริงที่กำลังกล่าวถึง เช่น ตัณหา ตัวปรมัตถธรรมของตัณหา คือ โลภเจตสิก ความโกรธ องค์ธรรม หรือ ตัวปรมัตถธรรม ของสภาพธรรม หรือ ตัวสภาพธรรมที่มีจริงของสภาพธรรมนั้น คือ โทสเจตสิก เป็นต้น ความไม่รู้ องค์ธรรม หรือ ตัวสภาพธรรมที่มีจริงที่เป็นปรมัตถธรรม คือ โมหเจตสิก เป็นต้น ครับ

กราบอนุโมทนาในธรรมทานค่ะอาจารย์

ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

ขอบพระคุณมากครับ

ดูทิฏฐิของท่านนักคิดประเภทนี้แล้ว คงจะต้องเหนื่อยกันไปอีกนาน ก็สมกับที่มีพระพุทธพจน์ว่า ไม่มีธรรมอะไรที่จะให้โทษได้ร้ายแรงเท่ากับมิจฉาทิฏฐิ

ขออนุโมทนากับท่านผู้รู้ครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขอบคุณ และ อนุโมทนาค่ะ

ขออนุโมทนาครับ