[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 480
๒๒. เรื่องภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง [๒๘๕]
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 43]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 480
๒๒. เรื่องภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง [๒๘๕]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "นิธาย" เป็นต้น.
ภิกษุเดินทางร่วมกับหญิงแม้ไม่รู้ก็มีโทษ
ได้ยินว่า ภิกษุนั้นเรียนกัมมัฏฐานในสำนักพระศาสดาแล้ว พยายามอยู่ในป่า บรรลุพระอรหัตแล้ว คิดว่า "เราจักกราบทูลคุณอันตนได้แล้ว แด่พระศาสดา" จึงออกจากป่านั้น.
ครั้งนั้น หญิงคนหนึ่งในบ้านตำบลหนึ่ง ทำการทะเลาะกับสามี, เมื่อสามีนั้นออกไปภายนอก, คิดว่า "เราจักไปสู่เรือนตระกูล" จึงเดินทางไป พบภิกษุนั้นในระหว่างทาง คิดว่า "เราจักอาศัยพระเถระนี้ไป" จึงติดตามไปข้างหลังๆ. แต่พระเถระไม่เห็นนาง.
ครั้งนั้น สามีของนางมาสู่เรือน ไม่เห็นนาง คิดว่า "นางจักไปสู่บ้านแห่งตระกูลแล้ว" ติดตามไปพบนางแล้วคิดว่า "อันหญิงนี้คนเดียว ไม่อาจเดินข้ามดงนี้ได้, มันอาศัยอะไรหนอ จึงไปได้" ดังนี้แล้วตรวจดูอยู่ เห็นพระเถระแล้ว คิดว่า "พระเถระนี้จักเป็นผู้พาหญิงนี้ออกไปแล้ว" จึงขู่พระเถระ.
ครั้งนั้น หญิงนั้นจึงกล่าวกะสามีนั้นว่า "ท่านผู้เจริญนั่น มิได้เห็น มิได้ร้องเรียกดิฉันเลย, คุณอย่าได้ว่ากล่าวอะไรๆ กะท่านเลย."
พระเถระถูกสามีของหญิงนั้นตีแต่ไม่โกรธ
สามีนั้น มีความโกรธเกิดขึ้นว่า "ก็เจ้าจักไม่บอกบุคคลผู้พาเจ้าไป แก่เราหรือ เราจักทำกรรมอันสมควรแก่ภิกษุนี้ (แทน) ตัวเจ้าให้ได้."
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 481
ด้วยความอาฆาตในหญิง จึงตีพระเถระ แล้วพาหญิงนั้นกลับไป.
ทั่วสรีระของพระเถระได้เป็นปมเกิดขึ้นแล้ว. ครั้นในกาลแห่งพระเถระนั้นมาสู่วิหาร ภิกษุทั้งหลายพากันนวดสรีระ เห็นปมแล้วถามว่า "นี่อะไร" ท่านบอกเนื้อความนั้นแก่ภิกษุเหล่านั้น.
ลำดับนั้น พวกภิกษุถามท่านว่า "ผู้มีอายุ ก็เมื่อบุรุษนั้นประหาร อยู่อย่างนั้น, ท่านได้กล่าวอะไร หรือความโกรธเกิดแก่ท่านไหม" พระเถระกล่าวว่า "ผู้มีอายุทั้งหลาย ความโกรธย่อมไม่เกิดขึ้นแก่เรา."
ภิกษุเหล่านั้น ไปสู่สำนักของพระศาสดา กราบทูลเนื้อความนั้นแล้ว กราบทูลว่า "พระเจ้าข้า ภิกษุนั้น อันข้าพระองค์ทั้งหลายกล่าวอยู่ว่า ความโกรธย่อมเกิดขึ้นแก่ท่านไหม ยังกล่าวได้ว่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ความโกรธย่อมไม่เกิดขึ้นแก่เรา, ภิกษุนั้นกล่าวคำไม่จริง พยากรณ์อรหัตตผล."
พระขีณาสพแม้ถูกตีก็ไม่โกรธ
พระศาสดาทรงสดับถ้อยคำของภิกษุเหล่านั้นแล้ว ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาพระขีณาสพทั้งหลาย มีอาชญาอันวางแล้ว, พระขีณาสพเหล่านั้น ย่อมไม่ทำความโกรธในชนทั้งหลาย แม้ผู้ประหารอยู่" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
๒๒. นิธาย ทณฺฑํ ภูเตสุ ตเสสุ ถาวเรสุ จ โย น หนฺติ น ฆาเตติ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
"ผู้ใดวางอาชญาในสัตว์ทั้งหลาย ผู้สะดุ้งและผู้มั่นคง ไม่ฆ่าเอง ไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า, เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นพราหมณ์."
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 482
แก้อรรถ
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นิธาย ได้แก่ วางแล้ว คือ ปลงลงแล้ว.
สองบทว่า ตเสสุ ถาวเรสุ จ ความว่า ผู้ชื่อว่าสะดุ้ง เพราะความสะดุ้งด้วยสามารถแห่งตัณหา และผู้ชื่อว่า มั่นคง เพราะความเป็นผู้มั่นคง โดยความไม่มีแห่งตัณหา.
สองบทว่า โย น หนฺติ เป็นต้น ความว่า ผู้ใด ชื่อว่ามีอาชญาอันวางแล้ว เพราะความเป็นผู้มีปฏิฆะไปปราศแล้วในสัตว์ทั้งปวงอย่างนี้ ย่อมไม่ฆ่าเอง ไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ซึ่งสัตว์อะไรๆ, เราเรียกผู้นั้นว่า เป็นพราหมณ์.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง จบ.