คือ การกระทำในใจโดยแยบคาย มองสิ่งทั้งหลายด้วยความคิด พิจารณา สาวหาเหตุผลจนตลอดสาย แยกแยะออกด้วยปัญญา ให้เห็นสิ่งต่างๆ ตามสภาวะและความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัย สมจริงดังคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้น ดังนี้ คือ "เราไม่เล็งเห็นองค์ประกอบภายในอื่นแม้สักอย่างเดียวที่มีประโยชน์มาก สำหรับภิกษุผู้เป็นเสขะ เหมือนโยนิโสมนสิการ ภิกษุผู้มีโยนิโสมนสิการ ย่อมกำจัดอกุศลได้ และย่อมยังกุศลให้เกิดขึ้น"
"เราไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้สักข้อหนึ่ง ซึ่งจะเป็นเหตุให้สัมมาทิฏฐิที่ยังไม่เกิด ก็เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็เจริญยิ่งขึ้น เหมือนโยนิโสมนสิการเลย"
"เราไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้สักข้อหนึ่งซึ่งจะเป็นเหตุให้ ความสงสัยที่ยังไม่เกิด ก็ไม่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ถูกขจัดเสียได้ เหมือนโยนิโสมนสิการเลย"
"โยนิโสมนสิการ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ เพื่อความดำรงมั่น ไม่เสื่อมสูญ ไม่อันตรธาน แห่งสัทธรรม"
[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 94
ปฐมโยนิโสมนสิการสัมปทาสูตร โยนิโสมนสิการเป็นเหตุให้เกิดอริยมรรค
[๑๗๒] สาวัตถีนิทาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรายังไม่เล็งเห็นธรรมอันอื่นแม้สักอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เหมือนความถึงพร้อมแห่งการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘
การเจริญกุศลทุกอย่างเป็นโยนิโสมนสิการ แม้ว่าจะเป็นกุศลที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา ก็มีโยนิโสมนสิการเกิดร่วมด้วยค่ะ
โยนิโสมนสิการ หมายถึงความคิดโดยแยบคายในการเจริญกุศล ในการทำความดี ในการพิจารณาสภาพธรรมะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ใช้โยนิโส คำนี้ ได้ยินบ่อย ใช้ได้หรือเปล่า ขณะที่เป็นกุศล ขณะนั้นก็เป็นโยนิโส ใครบังคับให้กุศลเกิดตามใจชอบได้ครับ ถ้าบังคับไม่ได้ แล้วใครจะบังคับให้ใช้โยนิโส ตามใจชอบได้ ในเมื่อทุกอย่างเป็นธรรมและเป็นอนัตตา ขออนุโมทนาครับ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ