สมมติว่าเราเดินไปเตะก้อนหิน แล้วเกิดความรู้สึกโกรธ จนถึงกับเตะก้อนหินนั้นซ้ำลงไปอีก อยากทราบว่า จิตขณะโกรธจนทำให้เตะก้อนหินซ้ำอีก จิตนั้นมีชื่อว่าอะไร ดวงที่เท่าไร เพราะอะไร ขอผู้รู้ ช่วยอธิบายขยายความหน่อยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความโกรธเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ซึ่งมีในชีวิตประจำวัน ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ใช่เราที่โกรธ แต่ เป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้น คือ จิต เจตสิกที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงเป็นสภาพธรรมที่โกรธ ไม่ใช่เราที่โกรธ ซึ่ง จิต เจตสิกเกิดขึ้นทำหน้าที่ ขณะที่เกิดความโกรธเกิดขึ้น ขณะนั้นก็ต้อง เป็นจิต เจตสิกที่เกิดขึ้น ที่เป็นโทสมูลจิต จิตที่เป็นโทสะ โดยมีโทสเจตสิก เกิดร่วมด้วย ครับ
ซึ่งขณะที่เตะก้อนหิน ขณะที่รู้เจ็บ เป็นกายวิญญาณ ที่รู้สึกเจ็บ แต่ขณะที่ไม่พอใจขุ่นเคืองใจที่โกรธ ขณะนั้น มีชื่อเรียกว่าโทสมูลจิต ที่มีโทสเจตสิกเกิดร่วมด้วย ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรม ไม่พ้นไปจากชีวิตประจำวันจริงๆ มีธรรมอยู่ทุกขณะ มีธรรมเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอด แต่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ จนกว่าจะได้มีโอกาสฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด ว่ามีแต่ธรรมเท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไป ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน เป็นแต่เพียงสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ เท่านั้น แม้แต่ในขณะที่เตะก้อนหิน แล้ว โกรธ ประโยชน์อยู่ที่ความเข้าใจถูกเห็นถูก ไม่ใช่ว่าจะหาชื่อธรรม เพราะจริงๆ แล้ว ธรรมแม้จะไม่เรียกชื่อ ก็เป็นจริง ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะเป็นอย่างอื่น เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ขณะที่กระทบสัมผัสในสิ่งที่ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ ทางกายมีจริงๆ เป็นเหตุให้ความโกรธ ความไม่พอใจเกิดขึ้น ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจก็มีจริงๆ และความโกรธ เวลาเกิดขึ้นก็ไม่ได้มาเพียงลำพังต้องมีจิตและเจตสิกธรรมอื่นๆ ตามควรแก่จิตประเภทนั้นๆ เกิดร่วมด้วย ทั้งหมดล้วนเป็นธรรมที่มีจริง ไม่มีตัวเราแทรกอยู่ในสภาพธรรมเหล่านั้นเลย ครับ
...ขออนุโมทนาในกูศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เป็นโทสะที่หยาบกระด้าง เป็นอกุศล เพราะโกรธหงุดหงิด ค่ะ
ขอบพระขคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาคะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ