สภาพธรรมที่ไม่ปรากฏจะรู้ได้ไหม แม้สภาพธรรมที่ปรากฏขณะนี้ ก็ยังไม่ระลึกรู้ลักษณะเลย เช่น ทางหู คือเสียง มีจริง เป็นธรรม ปรากฏให้จิตได้ยิน เกิดขึ้นรู้เสียงนั้น เหตุกับผลต้องตรงกัน ดังนั้นการเจริญปัญญา ก็คือการมีสติระลึกรู้สภาพธรรมที่ปรากฏทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ใช่ศึกษาแล้วสงสัย อยากรู้สภาพธรรมที่ไม่ปรากฏ เช่น ผัสสเจตสิก จักขุปสาทรูป ฯลฯ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สิ่งใดปรากฏ สิ่งนั้นเกิดขึ้นจึงปรากฏ รู้ในสิ่งที่ปรากฏ เพราะมีลักษณะปรากฏให้รู้ สิ่งที่ไม่ปรากฏให้รู้ จะไปรู้ก็ไม่ใช่สติที่จะไปรู้ แต่เป็นโลภะความต้องการที่อยากจะไปรู้ในสิ่งที่ไม่ปรากฏ ขณะนี้อะไรกำลังปรากฏ มีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปหา ไม่ต้องไปเลือก เป็นหน้าที่ของสติและปัญญาที่จะเกิดหรือไม่เกิด ธรรมทั้งหลายจึงเป็นอนัตตา เมื่อเข้าใจตรงนี้ จึงไม่มีเราที่ไปเลือกในสิ่งที่ยังไม่ปรากฏให้รู้ หรือเลือกรู้ในสิ่งที่ต้องการอยากรู้ด้วยความเป็นเรา คือโลภะนั่นเอง
ขออนุโมทนาด้วยครับ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ที่นี่ เดี๋ยวนี้ เพราะมีแต่ปัจจุบันอารมณ์เท่านั้น ถ้ารู้ไม่ทันก็ผ่านแล้วผ่านเลย
ขออนุโมทนาครับ
การศึกษาที่คลาดเคลื่อน คือศึกษาชื่อ แล้วตามหาที่อยู่ให้ชื่อที่ต้องการจะรู้นั้น
การศึกษาที่ถูกต้อง คือ เพื่อเข้าใจความเป็นจริง ด้วยความเห็นถูกในความเป็นอนัตตาของสภาพธรรมะโดยไม่หวังว่าจะรู้ในสิ่งที่เกินวิสัยที่จะรู้ และไม่หวังว่าจะรู้ในสิ่งที่ไม่เกินวิสัยที่จะรู้ ด้วยตัวตนที่อยากจะรู้
อนุโมทนาครับ
รู้โดยไม่เลือกและไม่เลือกที่จะรู้
ถ้าไม่รู้ ก็ต้องศึกษา ต้องฟังก่อน จึงจะเข้าใจว่า รู้โดยไม่เลือกและไม่เลือกที่จะรู้