- เดี๋ยวนี้เป็นวิปัสสนาหรือยัง? (ยัง) และ กำลังเห็น เดี๋ยวนี้ รู้ตรงเห็น รู้ความจริงของเห็น คืออะไรหรือยัง? (ยัง)
- ความเข้าใจมีหลายระดับหรือเปล่า? (มีหลายระดับ) ความเข้าใจเป็นธรรมหรือเปล่า? (เป็น) เป็นจิต หรือเจตสิก (เป็นเจตสิก) นี่เริ่มจะเป็นปริยัติ แต่ไม่ใช่ปฏิบัติ เพราะเหตุว่า ต้องเป็นความรู้มากกว่านี้ และก็มั่นคงกว่านี้
- ถ้าไม่มีความรู้ความเข้าใจ สิ่งที่กำลังปรากฏ เดี๋ยวนี้ จริงๆ จะเป็นปฏิบัติได้ไหม? (ไม่ได้) เพราะฉะนั้น จะรู้ลักษณะเมื่อไหร่ (เมื่อเข้าใจเพิ่มขึ้น) เพราะฉะนั้น สภาพธรรมที่มีจริงละเอียดมาก ไม่ใช่มีแต่ จิต และก็เจตสิกที่เป็นความเข้าใจ แต่ยังมีสภาพธรรมอื่นอีกที่จะทำให้เข้าใจขึ้น
- ความเข้าใจเพิ่มขึ้น จึงสามารถที่จะเริ่มตอบได้ว่า เดี๋ยวนี้มีอะไรบ้าง เขาได้ฟังเรื่อง จิต เจตสิก รูป บ้างแล้ว เพราะฉะนั้น เขาจะตอบได้ไหมว่า เดี๋ยวนี้ มีอะไรบ้าง? (Asha: มีเห็น, Dr Rajesh: สิ่งที่มีจริง, Akhil: มีคิด) นี่เป็นปริยิติ รอบรู้หรือยัง? (เป็น) รู้แค่นี้เองหรือเป็นปริยัติ พอแล้วใช่ไหม? ๔๐ ปี พระพุทธเจ้าสอนแค่นี้หรือ? เท่านี้ ไม่กี่คำ แค่นี้หรือ จิต เจตสิก รูป สอนแค่นี้หรือ (สอนมากกว่านี้มาก) ทำไมสอนมากกว่านี้มาก เพราะอะไรต้องสอนมากอย่างนี้ ของคุณAsha เพียงได้ยินว่า จิต เจตสิก รูป ขณะนี้มีเห็น มีได้ยิน แค่นี้พอไหม? (ไม่พอ) เพราะฉะนั้น เป็นปริยัติหรือยังเท่านี้เอง (ไม่เป็น) เพราะฉะนั้น ตอนนี้เป็นปริยัติหรือยัง แค่นี้ (ยัง)
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ
- ถึงเราจะพูดชื่อต่างๆ ก็เหมือนทุกคนที่อ่านชื่อต่างๆ ไม่สามารถที่จะรู้ความลึกซึ้งได้ ต้องให้เขาเข้าใจความหมายของ ความลึกซึ้ง แต่ละคำ.
- เพราะฉะนั้น ไม่ต้องพูดถึงคำอื่นสักคำเดียว เพียงแค่คำว่า ปริยิติ เท่านั้น ให้เข้าใจจริงๆ ว่า หมายความว่าอะไร มิเช่นนั้น ก็ไม่เข้าใจในความลึกซึ้ง แล้วก็เมื่อผิด ไม่รู้ความลึกซึ้งก็ผิดต่อไป ได้ยินคำไหนก็ไม่ลึกซึ้งไปหมด.
- เหมือนที่เขาได้ยินคนอื่นพูดคำว่า วิปัสสนา แต่เขาไม่รู้ความลึกซึ้งของแม้ปริยัติ ยังไม่ต้องไปถึงวิปัสสนา.
- ถ้าเพียงบอกว่า เป็นความรู้ต่างขั้น พอไหมที่จะเข้าใจว่า ปริยัติลึกซึ้งอย่างไร ปฏิบัติลึกซึ้งอย่างไร ปฏิเวธลึกซึ้งยิ่งกว่าอย่างอื่นอย่างไร จึงจะเป็นวิปัสสนา.
- ถ้าจำได้ จิตเท่าไหร่ เจตสิกเท่าไหร่ รูปเท่าไหร่ เป็นปริยัติอย่างนั้นหรือ เพราะฉะนั้น ต้องไม่ลืมพระปัญญาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่ใช่เข้าใจความลึกซึ้งของแต่ละคำ ที่พระองค์ตรัส จะไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย.
- ธรรมอยู่ไหน? (ตรงนี้) ใกล้หรือไกลที่สุด (ใกล้) มีอะไรอยู่ใกล้กว่าธรรมไหม? (ไม่มี) ธรรมอยู่ใกล้ที่สุดใช่ไหม? (ใกล้ที่สุด) อยู่ใกล้ที่สุด แต่ยังไม่รู้จักธรรมใช่ไหม? (ใช่) เริ่มเห็นความลึกซึ้งไหม คนที่ฟังเผินๆ คิดว่า เข้าใจแล้วความลึกซึ้ง แต่คนที่ไตร่ตรอง ลึกซึ้งอย่างยิ่งเพราะ กำลังมีเดี๋ยวนี้ ใกล้ที่สุดก็ยังไม่รู้ เพราะลึกซึ้ง เข้าใจอย่างนี้เป็นปริยัติหรือเปล่า แต่ต่างจากที่จำได้ว่าเห็นกำลังเห็นใช่ไหม เพราะความจริงแล้วเห็นอยู่ใกล้ที่สุด แต่ไม่รู้จักเห็นที่อยู่ใกล้ที่สุด นั่นเริ่มเห็นความลึกซึ้ง.
- เมื่อเริ่มเห็นความลึกซึ้ง ก็จะศึกษา ทุกคำ ให้ลึกซึ้งและเข้าใจ นั่นจึงเป็นปริยัติ.
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ
- ถ้าเพียงอ่านหนังสือแล้วก็จำ จะรู้ไหมว่า เดี๋ยวนี้เองกำลังเห็นไม่ใช่ความโกรธ โกรธเกิดโดยไม่มีจิตได้ไหม? (ไม่ได้) ไม่ได้ แต่ความโกรธไม่ใช่จิต แต่ความโกรธเกิดกับจิต เพราะจิตรู้แจ้งสิ่งที่ปรากฏ เพราะฉะนั้น ความโกรธเกิดกับจิตที่รู้แจ้งสิ่งที่ปรากฏ ถ้าจิตไม่รู้แจ้งสิ่งที่กำลังปรากฏ โกรธเกิดไม่ได้ เพราะฉะนั้น เมื่อจิตรู้แจ้งสิ่งที่ไม่น่าพอใจ ความโกรธที่เกิดพร้อมจิตที่รู้สิ่งนั้นก็ไม่ชอบเกิดขึ้นไม่ชอบสิ่งนั้น เจตสิกเกิดโดยไม่มีจิตไม่ได้ จิตก็เกิดโดยไม่มีเจตสิกไม่ได้ แต่เรายังไม่สามารถจะรู้จนกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงแสดงให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น ลึกซึ้งไหม (ลึกซึ้ง) .
- ถ้าจำแต่ชื่อ ลึกซึ้งไหม? (ไม่) เมื่อไม่รู้ความลึกซึ้ง จึงไม่ใช่ปริยัติ เป็นความจำชื่อเท่านั้น.
- รู้ว่าจิตไม่ใช่เจตสิก โกรธไม่ใช่จิต เป็นปริยัติ หรือปฏิบัติ หรือปฏิเวธ หรือวิปัสสนา (ปริยัติ) ค่ะ ทั้งสาม เป็นปัญญาความเห็นถูก ค่อยๆ เจริญขึ้นจนสามารถประจักษ์แจ้งความจริงตามที่เขาเองบอกว่า โกรธไม่ใช่จิต.
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ
- คนที่ไม่มีความเข้าใจ ความลึกซึ้งของสิ่งที่กำลังมี เดี๋ยวนี้ ไปทำวิปัสสนาหมายความว่าอย่างไร? เขารู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไหม? (ไม่รู้จัก) เขากำลังทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า? เขามีโอกาสที่จะรู้ความจริงที่กำลังเป็นจริงเดี๋ยวนี้หรือเปล่า? เพราะฉะนั้น จึงรู้ว่า แม้ศึกษาธรรม แต่ไม่เข้าใจธรรม ก็ผิด จริงไหม? (จริง) นี่เป็นสัจจบารมี เพราะฉะนั้น ต้องไม่ลืมคุณของผู้ที่ตรัสรู้ความจริงที่ประเทศนี้ แล้วก็ทรงแสดงธรรมให้คนทั้งโลก ทุกโลก ได้เข้าใจความจริง.
- อะไรเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในสังสารวัฏฏ์ (ความเข้าใจธรรม) เพราะฉะนั้น ต้องช่วยกันให้สิ่งที่ถูกให้คนอื่นได้เข้าใจด้วยเมื่อเราเข้าใจแล้ว.
- ต้องเคารพสูงสุดใน คำ ที่ทำให้สามารถรู้ความจริงที่ลึกซึ้ง เดี๋ยวนี้ ได้.
- ไม่ใช่สะสมความเห็นผิดเพียงในขณะนี้ แต่ต่อๆ ไปจนนับไม่ถ้วนในสังสารวัฏฏ์ไม่สามารถจะรู้ความจริงได้ เพราะไม่มีความเข้าใจความลึกซึ้งในขณะนี้.
- เข้าใจไหมว่า เป็นเรื่องละเอียด ลึกซึ้ง เป็นเรื่องเคารพสูงสุดใน ทุกคำ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระมหากรุณาแสดงให้เราเริ่มเข้าใจถูกต้อง.
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ
- ถ้าไม่ศึกษาละเอียดอย่างนี้ จะเป็นปริยัติไหม? (เป็นไม่ได้) นี่เป็นขั้นต้น ซึ่งกว่าจะเป็นปฏิปัตติ และกว่าจะเป็นปฏิเวธซึ่งเป็นวิปัสสนา เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ศึกษาจริงๆ ก็เข้าใจผิด.
- เดี๋ยวนี้เข้าใจปริยัติแล้วใช่ไหม? ไม่ใช่จำชื่อ แต่ต้องเป็นการเห็นความลึกซึ้งของธรรม และเข้าใจถูกต้อง กว่าจะเป็นปฏิปัตติ และกว่าจะเป็นปฏิเวธ.
- เมื่อไม่เข้าใจความลึกซึ้งของธรรม ก็เข้าใจผิด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ปฏิปัตติ และปฏิเวธ และวิปัสสนา ก็เข้าใจผิด เพราะไม่เห็นความลึกซึ้งของธรรม ไม่ใช่ปริยัติ.
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ
ขออนุโมทนาครับ