การเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏเป็นที่พึ่งอย่างไร ?
โดย เมตตา  16 พ.ย. 2552
หัวข้อหมายเลข 14277

ท่านอาจารย์ดูเหมือนจะเน้นบ่อยๆ เสมอๆ ถึงความสำคัญของการเข้าใจถูกความเห็นถูกในสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ ท่านอาจารย์อรรณพมีความกรุณาตั้งคำถามที่น่า

สนใจ น่าพิจารณาอย่างยิ่ง เพื่อจะเกื้อกูลแก่พวกเรา ท่านกราบเรียนถามท่าน-

อาจารย์ว่า...

การเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏเป็นที่พึ่งอย่างไร?

เป็นคำถามที่น่าสนใจมาก การเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏเป็นที่พึ่งอย่างไร?

ขอเชิญทุกท่านสนทนาร่วมกันน่ะค่ะ แสดงความคิดเห็นตามความเข้าใจของตนค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย JANYAPINPARD  วันที่ 17 พ.ย. 2552
การเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ เป็นคำที่คุ้นเคยได้ยินบ่อยแต่เข้าใจถูกต้องหรือไม่......?สิ่งที่กำลังปรากฏมีอะไรบ้าง รูปธรรมและนามธรรม บัญญัติ....?

สิ่งที่กำลังปรากฏหมายถึง
..อารมณ์ของจิต....?ทำไมสติปัฏฐานพิจารณาบัญญัติไม่ได้...?

เข้าใจสิ่งทีกำลังปรากฏ เข้าใจอะไร อย่างไร...?

ความคิดเห็น 2    โดย Sam  วันที่ 17 พ.ย. 2552

การเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏเป็นที่พึ่งอย่างไร?

ผมเข้าใจว่า การเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฎนั้น เป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญา

ซึ่งกุศลนั้น เป็นสภาพธรรมที่ไม่มีโทษ และมีผลเป็นคุณซึ่งย่อมเป็นที่พึงได้ และอีก

ประการหนึ่ง ขณะที่กุศลจิตนี้เกิด ย่อมแทนที่อกุศลจิตที่มักเกิดอยู่เสมอๆ จึงเป็นที่พึง

ให้ห่างจากอกุศล นอกจากนี้ ปัญญาที่เกิดขึ้นในขณะที่เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฎนั้น

เป็นปัจจัยหรือเป็นหนทางอันเอกอันนำไปสู่สภาพที่ดับทุกข์ทั้งปวง การเข้าใจสิ่งที่

กำลังปรากฎจึงเป็นที่พึ่งที่ยอดเยียมครับ

ขออนุโมทนครับ


ความคิดเห็น 3    โดย vikrom  วันที่ 18 พ.ย. 2552

เป็นที่พึ่งได้แน่นอนทั้งชาติปัจจุบัน ชาติหน้า และชาติต่อๆ ไปครับ

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย saifon.p  วันที่ 19 พ.ย. 2552

หากเข้าใจจริงๆ ว่า..... สี่งที่กำลังปรากฏ เช่นเห็น..... เป็นธรรม....ขณะนั้นละความยึดถือว่าเป็นตัวเรา (เพราะปกติเห็นแล้วคิดทันทีตามการสะสม.... ชอบหรือไม่ชอบ มีเขามีเรา เรื่องราวก็เลยยาว) ความเข้าใจขั้นการฟัง ยังรู้สึกเบา ไม่หนักได้ถึงขนาดนี้ เพราะขณะที่เห็น มีเห็นอย่างเดียว ไม่คิดถึงเรื่องอื่น ท่านอาจารย์เตือนเสมอว่า...."เห็นเป็นเห็น เป็นธรรม" ........เมื่อเป็นธรรมก็ไม่ใช่เรา.....ความเดือดร้อนใจก็ลดลง

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย pratin  วันที่ 19 พ.ย. 2552

ขณะที่เข้าใจ ขณะนั้นเป็นปัญญา เกิดบ่อยขึ้นเป็นการสะสม ปัญญาย่อม

คมกล้าขึ้น ย่อมเป็นที่พึ่ง เป็นธรรมฝ่ายดี เป็นเครื่องต้านทานกำลังของกิเลสตัณหาที่

คอยแต่จะชักจูงให้ไปตามปรารถนา


ความคิดเห็น 6    โดย saifon.p  วันที่ 19 พ.ย. 2552

พี่เมตตาคะ อาจารย์อรรณพถาม แล้วท่านอาจารย์อธิบายอย่างไรคะ?


ความคิดเห็น 7    โดย เมตตา  วันที่ 19 พ.ย. 2552

เรียนคุณ saifon.p ค่ะ

ท่านอาจารย์อธิบายว่า การเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏว่าเป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้น

ตามเหตุปัจจัยแล้วดับไป ไม่กลับมาอีกเลย ควรหรือที่จะไปเยื่อใยสิ่งที่ดับไปแล้ว

ขณะนั้นเป็นปัญญา ขณะนั้นไม่มีโลภะ ไม่มีโทสะ ขณะที่เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ

ขณะนั้นไม่ประกอบด้วยความไม่รู้คือโมหะ ขณะนั้นเป็นที่พึ่งได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ค่ะ

ต้องกราบขออภัยที่อธิบายอรรถไม่ครบถ้วน และไพเราะลึกซึ้งเหมือนท่านอาจารย์

อธิบายไว้น่ะค่ะ พี่เมตตาอธิบายตามเท่าที่เข้าใจได้ค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย saifon.p  วันที่ 20 พ.ย. 2552

ขอบพระคุณนะคะ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย Sam  วันที่ 20 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย pornpaon  วันที่ 20 พ.ย. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย orawan.c  วันที่ 29 พ.ย. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  วันที่ 2 ธ.ค. 2552
เข้าใจไม่ประจักษ์ ก็ไม่รู้จัก พบเจอชนอย่างจัง ยังไม่รู้เลย

ความคิดเห็น 13    โดย mikemongo1  วันที่ 5 ธ.ค. 2552

จากหนังสือ 'สนทนาธรรม (Conversation on Buddhism) ' โดย: นินา วัน กอร์คัม หน้า39

ถาม พุทธศาสนาทำให้คุณมีความสุขได้อย่างไร

ตอบ ด้วยการรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง

ถาม แล้วทำไมจึงมีความสุขได้

ตอบ ปัญญาละคลายโมหะและความเห็นผิดให้หมดไปได้ การรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงจะทำให้ละการยึดถือ ซึ่งจะทำให้เป็นอิสระขึ้น


ความคิดเห็น 14    โดย คุณ  วันที่ 6 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ