* จิตเป็นสภาพรู้ที่เป็นใหญ่ เป็นประธาน ในการรู้สิ่งที่ปรากฏ และมีเจตสิกคือสภาพรู้ที่เกิดปรุงแต่งจิต
* ถ้าเจตสิกที่ไม่ดี เช่น โลภะ โทสะ โมหะ เกิดปรุงแต่งจิต จิตก็มัวหมองเป็นอกุศล
* ถ้าเจตสิกที่ดีงาม เช่น ศรัทธา สติ ... อโลภะ (ความไม่ติดข้อง) อโทสะ (ความไม่ขุ่นเคือง) อโมหะ (ปัญญา) เกิดปรุงแต่งจิต จิตก็ดีงาม ไม่มัวหมอง
* ตลอดกาลนานในสังสารวัฏฏ์ จิตก็สะสมกิเลสอกุศลมาอย่างมากมาย จึงทำให้จิตใจในแต่ละวันมัวหมองเป็นอกุศลอยู่เป็นนิจ
* โมหะ (ความหลง) หรืออวิชชา คือความไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง เป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้จิตมัวหมองเป็นอกุศล
* ดังนั้น หนทางเดียวที่จะชำระจิตจากความมัวหมองเป็นอกุศลได้ก็คือ การฟังพระธรรม อบรมปัญญา และเจตสิกที่ดีงามต่างๆ ที่เป็นไปในการรู้ความจริงของสิ่งกำลังปรากฏ จึงจะค่อยๆ ละคลายความไม่รู้ ซึ่งเป็นมูลเหตุของอกุศลทั้งหลายได้ตามลำดับ
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและอนุโมทนาครับ
กราบยินดีในความดีทุกประการค่ะ