[เล่มที่ 15] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 139
บทว่า สตฺถนฺตรกปฺโป ความว่า กัปที่พินาศในระหว่างด้วยศาสตรา คือ ยังไม่ทันถึงสังวัฏฏกัป โลกก็พินาศเสียในระหว่าง ก็ชื่อว่า อันตรกัป นี้มี ๓ อย่างคือ ทุพภิกขันตรกัป กัปที่โลกพินาศในระหว่างด้วยทุพภิกขภัย ๑ โรคันตรกัป กัปที่โลกพินาศในระหว่างด้วยโรค ๑ สัตถันตรกัป กัปที่โลกพินาศในระหว่างด้วยศาสตรา ๑ ในกัปเหล่านั้น ทุพภิกขันตรกัป มีขึ้นได้แก่ หมู่สัตว์ที่หนาด้วยความโลภ โรคันตรกัป มีขึ้น ได้แก่ หมู่สัตว์ที่หนาด้วยความโมหะ สันถันตรกัป มีขึ้น ได้แก่ หมู่สัตว์ที่หนาด้วยโทสะ ในกัปเหล่านั้น เหล่าสัตว์ที่ฉิบหาย เพราะทุพภิกขันตรกัป ย่อมเกิดขึ้นในปิตติวิสัยแห่งเปรตเสียโดยมาก เพราะอะไร เพราะมีความอยากในอาหารเป็นกำลัง เหล่าสัตว์ที่ฉิบหายเพราะโรคันตรกัป บังเกิดในสวรรค์โดยมาก เพราะอะไร เพราะสัตว์เหล่านั้นเกิดเมตตาจิตขึ้นว่า โอหนอ โรคเห็นปานนี้ไม่พึงมีแก่สัตว์เหล่าอื่น เหล่าสัตว์ที่ฉิบหายเพราะสัตถันตรกัป ย่อมเกิดในนรกโดยมาก เพราะอะไร เพราะมีความอาฆาตต่อกันและกันอย่างรุนแรง.
บทว่า มิคสญฺญํ ความว่า มนุษย์เกิดความสำคัญขึ้นว่า ผู้นี้ เป็นเนื้อ ผู้นี้เป็นเนื้อ
บทว่า ติณฺหานิ สตฺถานิ หตฺเถสุ ปาตุภวิสฺสนฺติ ความว่า เล่ากันว่า สำหรับมนุษย์เหล่านั้น วัตถุอะไรๆ พอจะเอามือหยิบฉวยได้ โดยที่สุดกระทั่งใบหญ้าที่จะกลายเป็นอาวุธไปเสียทั้งนั้น.
ข้อว่า มา จ มยํ กญฺจิ ความว่า พวกเราอย่าปลงแม้บุรุษผู้หนึ่งไรๆ เสียจากชีวิตเลย.
ข้อว่า มา จ อมฺเห โกจิ ความว่า บุรุษผู้หนึ่งไรๆ อย่าปลงแม้พวกเราเสียจากชีวิตเลย.
คำว่า ยนฺนูนมยํ ความว่า เหล่าสัตว์จักสำคัญคิดอย่างนี้ว่า ความพินาศแห่งโลกนี้ ปรากฏเฉพาะแล้ว อันเราทั้งหลายสองคนอยู่ในที่เดียวกันไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น