ถาม เรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ ผมมีปัญหาข้องใจอยู่ดังจะถามต่อไปนี้ "การทำบุญเอง ย่อมได้สุขเอง การทำบาปเอง ย่อมได้ทุกข์เอง"
ตามหลักธรรมว่าอย่างนั้น แต่ทั้งสองอย่างนี้ เห็นได้โดยไม่ยากคือ เราสังเกตเห็นคนทุกวันนี้ ทำบาปเองได้ทุกข์เอง ทำบุญเองได้สุขเอง พอเห็นได้ แต่ว่า พ่อทำบาป ทำไมบาปจึงตกแก่ ลูก เช่น พ่อลอกทองคำในโถหุ้มพระธาตุเอาไปขาย ทำไมลูกเกิดมาจึงไม่มีหนังหุ้มห่อร่างกาย
อีกข้อหนึ่ง พ่อไปหาปลาจะเอามาทำอาหาร ได้ปลามาก็เอาไปวางไว้บนเขียงกับมีด ตนเองไปเอาฟืนเพื่อจะปรุงอาหาร เมื่อขึ้นมาปลาหายไปแล้ว ค้นหาไป เห็นแมวกินอยู่ที่มุมครัว ก็จับเอาแมวมาวางกับเขียงจะฟันหัวแมวให้ขาด พอยกมีดขึ้น แมวกลัว หดตัวเข้า เท้าแมวทั้งสองข้างติดกับเขียง จึงฟันถูกตีนแมวขาดทั้งสองข้าง ลูกของตนเกิดมา มือกุดไปทั้งสองข้างเลย
ทำไมจึงไปได้แก่ลูกล่ะครับ
ตอบ น่าคิด เพราะว่าถ้าดูเผินๆ ก็จะผสมกรรมของคนนี้กับกรรมของคนโน้น แต่ว่าถ้าลูกไม่มีกรรม ลูกจะเกิดมาไหม การที่ลูกเกิดมาอย่างนั้น เป็นกรรมของใคร ถ้าไม่ใช่กรรมของลูกเอง
แต่ละคนมีกรรมเป็นของตนเองจริงๆ ที่จะต้องรู้ก็คือ เมื่อได้กระทำกรรมไปแล้ว ขณะไหนเป็นผลของกรรมทางไหน และเมื่อไหร่ นี่เป็นสิ่งที่ควรจะพิจารณา เพราะ ทุกคนมีกรรมที่ได้กระทำแล้วมากมาย และเมื่อเกิดมาแล้ว ก็ย่อมจะกระทำกรรมต่อไปด้วย เมื่อไม่รู้ขณะที่เป็นกรรม และขณะที่เป็นผลของกรรม ก็จะสับสนปนกรรมของพ่อกับกรรมของลูกอยู่เรื่อยๆ
ถ้าไม่มีกรรมเป็นของตัวเองแล้ว ไม่เกิดแน่ พระอรหันต์ทั้งหลายไม่เกิด ฉะนั้น ไม่ว่าจะเกิดในตระกูลใด มีพ่อแม่ที่กระทำกรรมอย่างใดก็ตาม ลูกที่เกิดมาเป็นอย่างไร ก็เป็นผลของกรรมของลูกเอง ถ้าลูกไม่มีกรรมของลูก ลูกก็เป็นอย่างนั้นไม่ได้ ฉะนั้น เมื่อไม่รู้อดีตกรรมของลูกในชาติก่อนๆ ก็คิดว่า เมื่อพ่อแม่ได้ทำอย่างนั้น ลูกก็ได้รับผลของกรรมอย่างนั้น แต่ความจริง ถ้ารู้อดีตกรรมของลูกในชาติก่อนๆ ก็จะรู้ทีเดียวว่า ต้องเป็นผลกรรมของลูกเอง
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ