บนโลกเราใบนี้ ได้มีพระพุทธเจ้ามาเกิดกี่องค์แล้วครับ และองค์ก่อนหน้านี้ที่มาเกิด มาเกิดเมื่อที่ปีที่แล้วครับ เพราะเคยอ่านพระไตรปิฎกมาว่า มีพระพุทธเจ้าหลายท่านมาเกิด พระไตรปิฎกกล่าวเอาไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

ขอเชิญคลิกอ่านที่ ...

พระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนมีกี่พระองค์

และองค์ก่อนหน้านี้ที่มาเกิด มา เกิดเมื่อกี่ปีที่แล้วครับ

อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 2 โดย sharif1979 และองค์ก่อนหน้านี้ที่มาเกิดมา เกิดเมื่อกี่ปีที่แล้วครับ เรียนถามคุณ sharif1979 ว่าได้รับข้อมูลมาจากไหนครับ ถ้าจะกรุณาช่วงชี้แจงรายละเอียดด้วยก็จะเป็นการดีครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

ประโยชน์อะไรกับการได้รู้ว่า มีพระพุทธเจ้าผ่านมาแล้วกี่พระองค์

เดี๋ยวต่อไปพอรู้ว่ามีพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็อยากจะนับจำนวนด้วยอีกหรือเปล่า อีกอย่างหนึ่ง พุทธวิสัย อยากรู้ไปก็ตายเปล่า

ประโยชน์จริงๆ อยู่ที่การศึกษาธรรมะ ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงไว้ ให้ค่อยๆ มีความเข้าใจถูกเพิ่มขึ้น

แต่ถ้าหากการรู้จำนวนพระพุทธเจ้า จะทำให้คุณตั้งใจศึกษาพระธรรมมากขึ้น เห็นถึงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณของพระพุทธองค์ ก็กรุณาคลิกอ่านโดยละเอียดตามลิ้งค์ใน ความคิดเห็นที่ 1 ค่ะ

พระพุทธเจ้ากว่าจะอุบัติหาได้ยาก เพราะฉะนั้นชาตินี้เป็นชาติที่ดีที่สุดที่พระธรรมคำ สอนของพระพุทธเจ้ายังมีอยู่ ไม่ประมาทในการฟังธรรมและเจริญกุศลทุกประการค่ะ

ผมถามเพราะต้องการรู้ เผื่อพระไตรปิฎกจะได้บอกข้อมูลตรงนี้เอาไว้ให้รู้ ว่า พระพุทธเจ้าองค์ที่แล้วมีมาเมื่อไหร่ กี่ปีที่แล้ว

นับปีไม่ได้นานมากค่ะ ในพระไตรปิฏกแสดงไว้ ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะองค์ก่อน ปรินิพพานจนศาสนาสิ้นไป พระพุทธเจ้าองค์ใหม่จะอุบัติขึ้นแผ่นดินต้องสูงชึ้น 1 โยชน์

พระพุทธเจ้าทรงดับขันธปรินิพพานไปแล้วเมื่อ ๒,๖๐๐ กว่าปีครับ ทรงเป็นพระองค์ที่ ๔ ของภัทรกัปป์นี้ ซึ่งในกัปป์นี้จะมีพระพุทธเจ้าถึง ๕ พระองค์ อีก ๑ พระองค์ คือพระศรีอริยเมตไตย ซึ่งจะทรงตรัสรู้อริยสัจจธรรมในกาลข้างหน้า ก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่พระธรรมของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ที่ทรงแสดงไว้ก็ยังมีรวบรวมเป็นพระไตรปิฎก หลงเหลือไว้เป็นมรดกสำคัญให้พวกเราได้ศึกษากันอยู่ ยิ่งถ้าได้ศึกษาถูกทาง ก็จะยิ่งทำให้เข้าใจชีวิตของตนเองมากขึ้นครับ

สิ่งที่อยากรู้นั้น เป็นพระพุทธวิสัยเท่านั้น จะรู้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้พ้นจากทุกข์ได้ สิ่งที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงชี้หนทางให้หลุดพ้นจากทุกข์ได้ จึงเป็นสิ่งที่น่า สนใจน่าศึกษา นั่นก็คือการศึกษาพระธรรม เข้าใจพระธรรม การอบรมเจริญปัญญา เพื่อรู้ลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฎในขณะนี้ ซึ่งเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะค่อยๆ ละความไม่รู้ ค่อยๆ ขัดเกลากิเลส จนกว่าจะดับกิเลสหมดสิ้นเป็นสมุจเฉทจึงจะหลุดพ้นจากทุกข์ไม่ต้องมาเวียนว่าย ตาย เกิด อีกต่อไป

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ