๑๒. กัปปสูตรที่ ๑ ว่าด้วยการรู้การเห็น เป็นเหตุไม่มีอหังการ มมังการและมานานุสัย
โดย บ้านธัมมะ  7 ก.ย. 2564
หัวข้อหมายเลข 36888

[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 388

๑๒. กัปปสูตรที่ ๑

ว่าด้วยการรู้การเห็น เป็นเหตุไม่มีอหังการ มมังการและมานานุสัย


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 27]



ความคิดเห็น 1    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 1 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 388

๑๒. กัปปสูตรที่ ๑

ว่าด้วยการรู้การเห็น เป็นเหตุไม่มีอหังการ มมังการ และมานานุสัย

[๓๑๘] กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล ท่านพระกัปปะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ฯลฯ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อบุคคลรู้อยู่อย่างไร เห็นอยู่อย่างไรหนอแล จึงจะไม่มีอหังการ มมังการ และมานานุสัยในกายที่มีใจครองนี้และในสรรพนิมิตภายนอก?

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนกัปปะ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน เป็นภายในก็ดี ภายนอกก็ดี หยาบก็ดี ละเอียดก็ดี เลวก็ดี ประณีตก็ดี มีอยู่ในที่ไกลก็ดี ในที่ใกล้ก็ดี อริยสาวกเห็นสิ่งทั้งหมดนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่ใช่นั่น นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา ดูก่อนกัปปะ เมื่อบุคคลรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่


ความคิดเห็น 2    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 1 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 389

อย่างนี้แล จึงไม่มีอหังการ นมังการ และมานานุสัยในกายที่มีใจครองนี้และในสรรพนิมิตภายนอก.

จบ กัปปสูตรที่ ๑

อรรถกถากัปปสูตรที่ ๑

กัปปสูตรที่ ๑ (มีเนื้อความ) เหมือนกับราหุโลวาทสูตรนั่นแล.

จบ อรรถกถากัปปสูตรที่ ๑