ธรรมคืออะไร
โดย wittawat  10 ก.พ. 2564
หัวข้อหมายเลข 33699

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

เป็นบทความที่ได้รับประโยชน์จากการฟังธรรมจากที่มูลนิธิฯ ขอรวบรวมไว้ และขอแบ่งปัน เพื่อประโยชน์คือ การเข้าใจความจริงครับ ขอให้อาจารย์ที่มูลนิธิ ช่วยเพิ่มเติมด้วยตามความเหมาะสมครับ

ธรรมคืออะไร?

ธรรม โดยภาษาไทยคำแปลก็ได้หลากหลาย เช่น คุณความดี คำสั่งสอนในศาสนา ความจริง ความยุติธรรม เป็นต้น

ถ้าไปถามตามบุคคลทั่วไป ก็อาจจะได้คำตอบว่าเป็นธรรมชาติ แล้วธรรมชาติคืออะไร
บ้างก็อาจจะบอกว่าเป็น ป่า เขา บ้าง เป็นร่างกาย จิตใจบ้าง แล้วจริงๆ แล้ว ธรรมคืออะไร?

คำว่า ธรรม มาจากภาษาบาลี คือ ธมฺโม คือ ดำรงอยู่ หรือหมายถึง สิ่งที่มีอยู่จริง มีลักษณะจริง

ถ้าแปลโดยนัยนี้แล้ว ถ้าจะถามว่า "อะไรคือสิ่งที่มีอยู่จริง? "

ก็อาจจะได้คำตอบคือ คน ต้นไม้ บ้าน เสาไฟฟ้า เป็นต้น เป็นสิ่งที่มีจริงๆ เพราะเห็นกันอยู่ว่ามีอย่างนี้

และถ้าถามเจาะลึกลงไปอีก ที่ว่าเป็นคน "อะไรที่ปรากฏให้รู้ได้ว่าเป็นคน (หรือ ต้นไม้ หรือประการอื่นๆ ที่ผู้นั้นเข้าใจว่ามีอยู่จริง) ? "

ก็อาจจะได้คำตอบว่า "คนก็มีแขน มีขา มีตัว มีศรีษะ ขาอยู่ล่าง ตัวและแขนอยู่ตรงกลาง ศรีษะอยู่ข้างบน ฯลฯ"

นี่หรือคือสิ่งที่มีอยู่จริง? ที่เรียกว่าแขน "อะไรที่ปรากฏให้รู้ได้ว่าเป็นแขน? "

เมื่อถึงจุดนี้แล้วก็จะทราบได้ว่า ตลอดทั้งชีวิตนี้ พูดและใช้คำต่างๆ มากมาย ที่เหมือนว่าจะรู้ แต่แท้จริงแล้วไม่ได้รู้อะไรเลย เช่น ใช้คำว่าธรรม เป็นต้นว่า "ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง" ก็ไม่ได้มีความรู้ว่าจริงๆ แล้วธรรมนั้นคืออะไร

คำจริง สิ่งที่มีจริง ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงและไม่อาจเปลี่ยนแปลงลักษณะได้ ที่ว่าเข้าใจว่าเป็นร่างกายก็ดี หรือเป็นสิ่งใดๆ ภายนอกร่างกายก็ดี แท้ที่จริง ถ้าไม่ได้ลืมตา จะปรากฏว่ามีแขนหรือไม่ หรือแม้กระทั่งหลับตา ที่เข้าใจว่าเป็นแขนนั้น แท้จริงแล้วถ้าไม่มีสิ่งที่ปรากฏให้รู้ว่าเป็นแขน จะรู้ได้ว่าเป็นแขนหรือไม่ เพราะฉะนั้นอะไรคือความจริง ที่มีลักษณะจริง (ไม่อาจเปลี่ยนลักษณะนั้้นๆ ได้)

ผู้นั้นอาจตอบว่า "ถ้าหลับตา ก็ยังรู้อยู่ว่ามีแขน"

แล้วจริงๆ แล้วที่รู้ว่ามีแขน หรือรู้ว่ามีแขนได้จากอะไร? จริงๆ แล้วกำลังรู้อะไรอยู่? แขนนั่นหรือคือสิ่งที่ปรากฏให้รู้? แต่ถ้าไม่ใช่ แล้วอะไรเป็นสิ่งที่ปรากฏให้รู้ได้จริงๆ?

ถ้าเป็นผู้ที่ตรงก็จะได้คำตอบว่า สิ่งที่กำลังรู้จริงๆ นั้นที่ปรากฏว่าเป็นแขน ปรากฏว่ามีแขน แท้จริงคือ "แข็งบ้าง เย็นบ้าง" ต่างหาก

ซึ่งสิ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความหมายของธรรม ซึ่งแปลจากภาษาบาลี ที่หมายความว่า สิ่งมีจริง ซึ่งมีลักษณะจริง เป็นจุดเริ่มต้นที่จะเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนอะไร? ซึ่งตัวอย่างที่ยกมานี้ก็เป็นความจริงประเภทหนึ่งที่ปรากฏให้รู้ได้ทางกาย ซึ่งความจริงก็ไม่ได้มีเฉพาะทางกายอย่างเดียว ยังมีความจริงที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ด้วย

ที่กล่าวว่า แข็งคือความจริงที่ปรากฏทางกาย นั้นคืออย่างไร?

"เห็นแข็งได้หรือไม่? " "ได้ยินแข็งได้หรือไม่? " แน่นอนว่าไม่ได้ (แม้นัยอื่น เช่น การสูดกลิ่นแข็ง เป็นต้น ก็เช่นเดียวกัน) เพราะแข็งสามารถที่จะกระทบได้ทางกายเท่านั้นจริงๆ

แข็ง เป็น "ธรรม" คือเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และมีลักษณะที่ไม่อาจแยกย่อยต่อไปได้แล้ว จึงเป็น "ปรมัตถธรรม" (ความจริงที่มีลักษณะอย่างยิ่ง) และเป็น "อภิธรรม" (ความจริงที่ยิ่ง)



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 18 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ