ในพระไตรปิฎกโลกันต์นรกเป็นอย่างไร
โดย ananta  1 ส.ค. 2563
หัวข้อหมายเลข 32614

หลักฐานในพระไตรปิฎกเรื่องโลกันตริกะนรกมีไหม..?



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 1 ส.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อเวจีมหานรก เป็นนรกขุมที่หนักที่สุด อันหมายถึง ความสืบเนื่องต่อเนื่องไม่ขาดสาย ของเปลวไฟ ที่จะเผาสัตว์นรกอยู่ตลอดเวลาจนกว่าอกุศลกรรมจะหมดสิ้น

ส่วน โลกันตริกนรก ก็เป็นนรกขุมหนึ่ง ที่หนักเช่นกันแต่ไม่เท่ากับ อเวจีมหานรก อันเป็นนรกที่หนาวเหน็บเยือกเย็น สัตว์นรกจะเกาะอยู่ด้านบน ข้างล้าง มีน้ำกรด สัตว์นรกก็จะตกลงไปในน้ำกรดนั้นและละลายเหมือนผงแป้ง โลกันตริกนรกอยู่ในช่องระหว่างจักรวาล เปรียบเหมือน ล้อเกวียน สามล้อชนกัน ตรงกลางที่เป็นช่องว่าง คือ โลกันตริกนรก ซึ่งผู้ที่ความเห็นผิด เป็นต้น ย่อมตกนรกนี้

พระพุทธเจ้าทรงแสดงภูมิขอสัตว์โลกตามความเป็นจริง เพราะเมื่อมีการกระทำกรรม ก็ต้องมีภพภูมิที่จะต้องได้รับผลของกรรมด้วย ผู้ที่ทำบาป อกุศลกรรม ก็มีภพภูมิที่เหมาะสมกับการทำบาป อกุศกรรม มี นรก เป็นต้นพระพุทธองค์ทรงแสดงนรก ให้สัตว์โลกเห็นถึงความทุกข์ทางกายที่เกิดขึ้นอย่างทรมาน เพื่อให้เกิดความสลดใจและเห็นโทษในการทำบาป อกุศล และเห็นประโยชน์ของการเจริญกุศลและอบรมปัญญาเพื่อพ้นจากทุกข์ มีการเกิดในนรก เป็นต้น ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย chatchai.k  วันที่ 1 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 1 ส.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นภูมิที่ได้เพราะกรรม ที่เป็นอกุศลกรรมเท่านั้น ไม่ใช่กุศลกรรม กล่าวได้ว่า เป็นภูมิที่ได้โดยง่าย เมื่อมีเหตุที่เป็นอกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้ ย่อมพาลงไปสู่ที่ต่ำ คือ อบายภูมิเท่านั้น สำหรับนรก ก็เป็นหนึ่งในอบายภูมิ เป็นภูมิที่ปราศจากความเจริญ ทำให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสเลยทีเดียว นรกขุมที่หนัก คือ อเวจีมหานรก เป็นนรกที่ไม่ว่างเว้นจากเปลวไฟ สัตว์นรกจะถูกเผาไหม้ด้วยไฟตลอดเวลา ยังไม่สิ้นสุดจนกว่าจะสิ้นกรรม ส่วนโลกันตริกนรก ก็หนักเหมือนกัน แต่ไม่เท่ากับอเวจีมหานรก เป็นนรกที่หนาวเย็น มืดสนิท ระยะเวลาในการเกิดและได้รับความทุกข์ทรมานในโลกันตริกนรก ก็ยาวนานมาก เพราะฉะนั้น พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงในเรื่องของกรรม ผลของกรรม รวมไปถึงเรื่องของอบายภูมิ มี นรก เป็นต้น ก็เพื่อที่จะเตือนให้ทุกคนเป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ ไม่ประมาทกำลังของกิเลส และไม่ประมาทในการเจริญปัญญาเพื่อที่จะได้รู้แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริง พ้นจากการที่จะต้องเกิดในอบายภูมิ และจะพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ในที่สุด ครับ.
ขอเชิญอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
โลกันตริยนรก
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย chatchai.k  วันที่ 1 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย ananta  วันที่ 3 ส.ค. 2563

อนุโมทนา สาธุ.. _/|\_


ความคิดเห็น 6    โดย kullawat  วันที่ 6 ส.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย wannee.s  วันที่ 6 ส.ค. 2563

ขณะที่เราทำอกุศลกรรมบถ ขณะนั้นอบายภูมิก็รอเราอยู่ข้างหน้า ตรงกันข้าม ขณะใดที่ทำกุศลกรรมบถสำเร็จ สุคติภูมิก็รออยู่ข้างหน้าเช่นกันค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย chatchai.k  วันที่ 23 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ