พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ ๒๒๘
อธิบายคำว่าจิต
พึงทราบวินิจฉัยในบทว่า จิตฺตํ สภาวะที่ชื่อว่า จิต เพราะอรรถว่า
ย่อมคิด คือ ว่า ย่อมรู้แจ้งซึ่งอารมณ์ อีกอย่างหนึ่ง ศัพท์ว่า จิต นี้ ทั่วไป
แก่จิตทั้งปวง เพราะฉะนั้น ในบทว่า จิตฺตํ นี้ จิตใดที่เป็นกุศลฝ่ายโลกีย์
อกุศลและมหากิริยาจิต จิตนั้นชื่อว่า จิต เพราะอรรถว่า ย่อมสั่งสมสันดาน
ของตนด้วยสามารถแห่งชวนวิถี. ชื่อว่า จิต เพราะอรรถว่า เป็นธรรมชาติ
อันกรรมและกิเลสทั้งหลายสั่งสมวิบาก. อีกอย่างหนึ่ง แม้ทั้งหมด ชื่อว่า จิต
เพราะความเป็นธรรมชาติวิจิตรตามสมควร. ชื่อว่า จิต เพราะการทำให้วิจิตร
พึงทราบเนื้อความในบทว่า จิตฺตํ นี้ ดังพรรณนามาฉะนี้
..............................................
แท้จริงชีวิตก็คือ กายและจิต ที่เกิดดับสืบต่อ แต่ละขณะเป็นเพียงสภาพธรรม
แต่ละอย่างที่เกิดขึ้นเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และคิดนึก
ถ้ายังไม่รู้จัก กายและจิต ไม่มีความเข้าใจว่า เป็นสิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏ ใน
ชีวิตประจำวันเดี๋ยวเห็น เดี๋ยวก็ได้ยิน....เดี๋ยวก็คิดนึกสลับกันไป ไม่เคยขาดสายเลย
กาย มีแน่ๆ จิตก็มีแน่ๆ แต่ยังไม่รู้จัก ที่กาย เป็นธรรมะแต่ละอย่าง เป็นส่วน
ต่างๆ ประชุมรวมกัน ที่ทุกคนยึดถือว่าเป็นกายของเรา คิดว่ายังมีอยู่ แท้จริงเมื่อกระ-
ทบสัมผัส ก็เป็นเพียง เย็นหรือร้อน อ่อนหรือแข็ง ตึงหรือไหว เพราะความไม่รู้จึง
ยึดถือกายในส่วนต่างๆ ว่าเป็นเรา จิตเป็นธาตุรู้ สภาพรู้ ถ้าไม่มีจิตอะไรก็ไม่ปรากฏ
โลกทางตา โลกทางหู...และโลกทางใจ โลกทั้ง ๖ ย่อมไม่ปรากฏ ถ้าไม่มีความ
เข้าใจ กายและจิตแล้ว สติจะระลึกรู้ได้อย่างไร จึงต้องศึกษาให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏจริงๆ ทั้ง ๖ ทาง เพราะความไม่รู้จึงยึดถือสภาพธรรมทั้งหมดว่าเป็นเรา
เราเห็น แข็งเป็นเรา จนกว่าเห็นปรากฏ แข็งปรากฏ โดยสภาพธรรมนั้นๆ
ปรากฏไม่ใช่โดยชื่อ จนกว่าสภาพธรรมจะปรากฏตรงตามที่ได้ฟังทุกอย่าง
ตรงตามที่เข้าใจ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
ชีวิตของสัตว์เป็นการสืบต่อของจิต [อรรถกถาอุปเนยยสูตร]
....ขออนุโมทนาค่ะ..
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
การศึกษาธรรมะ ทำให้เปลี่ยนจากความไม่รู้ เป็นความรู้ค่ะ
โดยมากก็จะรู้จักกายและจิตตามบัญญัติ ตามการยึดถือ แต่ไม่ได้รู้เลยว่าทั้งกายและจิตต่าง
ก็เป็นเพียงธาตุหรือธรรมอย่างหนึ่ง เสมอกัน
"ที่กาย เป็นธรรมะแต่ละอย่าง เป็นส่วนต่างๆ ประชุมรวมกัน...
จิตเป็นธาตุรู้ สภาพรู้ ถ้าไม่มีจิตอะไรก็ไม่ปรากฏ โลกทางตา โลกทางหู...
และโลกทางใจ โลกทั้ง ๖ ย่อมไม่ปรากฏ
...ต้องศึกษาให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏจริงๆ ทั้ง ๖ ทาง..
จนกว่าสภาพธรรมจะปรากฏตรงตามที่ได้ฟังทุกอย่าง ตรงตามที่เข้าใจ"
สิ่งที่กำลังปรากฏเป็นธรรมะที่เกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็ว
และบังคับบัญชาไม่ได้
ไม่ใช่ตัวตน
ขอบพระคุณพี่เมตตา และขออนุโมทนาค่ะ