เริ่มเข้าใจ … ก็เริ่มละ
โดย nattawan  16 ต.ค. 2566
หัวข้อหมายเลข 46795

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

เมื่อพูดถึงคำว่า "วิบัติ" แล้วความเสื่อม ความอันตราย ความเสียหาย ... ไม่มีใครชอบเลย ถ้าไม่ชอบความวิบัติ ต้องเห็นโทษของอกุศล แต่กาลละอกุศลได้ไม่ใช่อยู่ๆ ก็สามารถลเได้ทันที ต้องมีปัญญาเห็นโทษของอกุศล มีความเข้าใจธรรมะเป็นพื้นฐาน

ความเข้าใจธรรมะที่เป็นพื้นฐานที่ทำให้ละความวิบัติได้ตามลำดับคืออย่างไร ... เชิญคลิกชมหาคำตอบได้ค่ะ ...

รายการบ้านธัมมะ 9 กรกฎาคม 2565 เริ่มเข้าใจ..ก็เริ่มละ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย nattawan  วันที่ 16 ต.ค. 2566

วิบัติ คือ ความเสื่อมเสีย ความเสียหาย

สัมปทา คือ ความถึงพร้อม ความพร้อม ความสมบูรณ์

วิบัติ 3 คือ สีลวิบัติ จิตตวิบัติ ทิฏฐิวิบัติ และสัมปทาน 3 คือ สีลสัมปทาจิตตสัมปทา ทิฏฐิสัมปทา และเพราะความถึงพร้อม 3 ประการจึงเป็นเหตุให้สัตว์ไปสู่สุคติภูมิ

ความเป็นจริงของธรรมะซึ่งเป็นความวิบัติจริงๆ ที่ส่องให้เข้าใจถึงความเป็นจริงของธรรมะที่มีจริงในขณะนี้ ... ทั้งหมดที่ไม่ดีงามต้องมาจากความไม่รู้ เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ที่ละเอียดไม่ใช่เพียงได้ยินคำนี้แล้วอยากไม่วิบัติ แต่ขณะนั้นรู้ไหมว่ากำลังวิบัติหรือเปล่า ต้องเข้าใจว่าการที่จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งเป็นที่เคารพสูงสุดในพระปัญญาที่ทรงตรัสรู้ และทรงแสดงความจริงให้คนอื่นได้เข้าใจ ไม่ใช่เพียงแต่ให้ประพฤติตาม

ถ้าฟังเผินๆ ให้ประพฤติตาม ... ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของๆ คนอื่น ไม่พยาบาท และมีความเห็นผิด ... ทั้งหมดมาจากไหน ... แล้วจะให้ประพฤติดี ให้เว้นจากสิ่งต่างๆ เหล่านั้น แต่ไม่มีความเห็นที่ถูกต้องตามที่พระองค์ทรงแสดง เพื่อขัดเกลาถึงความหมดจดของจิต ซึ่งปราศจากแม้อนุสัยกิเลส ... ไม่ใช่เพียงชั่วครั้งชั่วคราวว่าแค่ไม่ไปอบายภูมิ

แต่ที่จะไม่ไปเลยตลอด ต้องมีปัญญาที่สามารถรู้ความจริงถึงที่สุด จึงจะสามารถขัดเกลาทำให้จิตพ้นจากความเห็นผิด และความไม่ดีต่างๆ ซึ่งคนทั่วๆ ไปจะใช้เพียงแค่มีศีล ที่จะละเว้นเท่านั้น แต่ไม่เห็นความวิบัติที่จะต้องไปเกิดในนรก ตราบใดที่ยังมีความไม่รู้สภาพธรรมะตามความเป็นจริง

คำสอนของพระองค์แต่ละคำก็ต้องต่างจากคำสอนอื่นๆ ทั้งหมด ถ้าไม่กำจัดต้นเหตุแล้วจะให้สิ่งต่างๆ เหล่านั้นไม่เกิดอีกได้อย่างไร เพราะฉะนั้นต้นเหตุที่จะทำให้เกิดความวิบัติต่างๆ ต้องกำจัดให้หมด ด้วยการฟังพระธรรมและมีความเข้าใจว่า ไม่ใช่เพียงแค่นี้ ... ไม่ใช่เพียงแค่มีศีล ไม่ฆ่าสัตว์ไม่เพ่งเล็งของคนอื่น ไม่พยาบาทและความเห็นผิด ... ไม่รู้เลยว่าเดี๋ยวนี้มีความเห็นผิดหรือเปล่า!!! จะพึ่งใครถึงจะรู้ ... ถ้าไม่มีคำของพระองค์ ... ไม่มีใครรู้ว่าเดี๋ยวนี้เห็นผิดหรือเปล่าและเห็นผิดว่าอะไร

การศึกษาธรรมะเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง เป็นความจริง ต้องไม่ลืม ... ทุกคำของพระองค์ดูประหนึ่งว่าเล็กน้อยแต่ทุกคำจะนำไปสู่การดับอนุสัย (กิเลสที่นอนเนื่อง ด้วยอรรถว่า ละไม่ได้) กิเลสที่ละเอียดอย่างยิ่ง ที่นอนเนื่องอยู่ในจิต แม้กำลังหลับสนิทก็มี ยังไม่ต้องพูด ยังไม่ต้องทำอะไรเลยกิเลสที่เป็นอนุสัยมีอยู่ตราบใด ขณะนั้นก็ทำให้เกิดอกุศล คือ ความประพฤติต่างๆ ที่เป็นโทษ ที่เป็นความวิบัติ

เพราะฉะนั้น ศึกษาให้เข้าใจคำสอนของพระศาสนา สำคัญที่สุดไม่ใช่ว่า ... ว่าอย่างไร ให้รักษาศีลเท่านั้น ก็รักษาศีลกันไป แต่ต้องศึกษาให้ละเอียดจริงๆ ว่าคำสอนของพระองค์ทุกคำเป็นประโยชน์มหาศาล ลึกซึ้งอย่างไร เพราะสามารถที่จะไม่ให้ไปสู่อบายภูมิ ให้หมดความเห็นผิด ... ไม่เหลือเลยสักนิดเดียว

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย nattawan  วันที่ 16 ต.ค. 2566

แค่เป็นเราก็วิบัติแล้ว แต่ความวิบัติในขณะที่เป็นเราก็ยังไม่ปรากฏเลย เพราะว่าขณะนั้นเพียงแต่ว่ายังไม่มีความเข้าใจธรรมะว่าไม่ใช่เรา

แต่เมื่อความเป็นเรามีกำลังมาก เป็นความเห็นแก่ตัว ทำทุจริตกรรม ทำร้ายผู้อื่น ก็จะปรากฏความวิบัติอย่างชัดเจน

เพราะฉะนั้น ผู้ที่กระทำกรรมแล้ว ย่อมได้รับผลของการกระทำ เมื่อทำทุจริตกรรม ก็ได้รับสิ่งไม่ดี มูลรากจริงๆ ทั้งหมดมาจากความไม่รู้ ความเป็นเรา ซึ่งต้องมีปัญญาที่สามารถละได้ไปตามลำดับ


ความคิดเห็น 3    โดย nattawan  วันที่ 16 ต.ค. 2566

... ให้มั่นคงว่า "ไม่มีเรา" แล้วความเป็นเราก็จะค่อยๆ น้อยลง ความเห็นแก่ตัวเพราะความเป็นเราก็ค่อยๆ ลดลง คุณความดีทั้งหลายก็เพิ่มขึ้น ไม่มีการที่จะต้องทำเพื่อ "ตัวเรา" ...


ความคิดเห็น 4    โดย nattawan  วันที่ 16 ต.ค. 2566

แนะนำหนังสือ ...

พระอภิธรรมในชีวิตประจำวัน

โดย นีน่า วัน กอร์คอม

แปลโดย ดวงเดือน บารมีธรรม


ความคิดเห็น 5    โดย nattawan  วันที่ 16 ต.ค. 2566

ข้อความบางส่วนจากหนังสือ พระอภิธรรมในชีวิตประจำวัน

นามธรรมที่ได้ยินเป็นสภาพธรรมที่รู้เสียง โสตปสาทและเสียงเป็นรูปธรรมซึ่งไม่รู้อะไร (หน้า 3)


ความคิดเห็น 6    โดย nattawan  วันที่ 16 ต.ค. 2566

... สอนผู้อื่นเช่นใด พึงทำตนเช่นนั้น ...


ความคิดเห็น 7    โดย nattawan  วันที่ 16 ต.ค. 2566

ภิกษุในธรรมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง


ความคิดเห็น 8    โดย nattawan  วันที่ 16 ต.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ความคิดเห็น 9    โดย chatchai.k  วันที่ 16 ต.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ