พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้าที่ 524
[๓๐๕] ดูก่อนสหายปุณณมุขะ หญิงย่อมยั่วยวนชายด้วยเหตุ ๔๐ ประการ คือ ดัดกาย ก้มตัว กรีดกราย ทำอาย แกะเล็บ เอาเท้าเหยียบกัน เอาไม้ขีดแผ่นดิน ทำกระโดดเอง ให้เด็กกระโดด เล่นเอง ให้เด็กเล่น จุมพิตเด็ก ให้เด็กจุมพิต กินเอง ให้เด็กกิน ให้ของแก่เด็กขอของจากเด็ก ทำตามที่เด็กกระทำ พูดเสียงสูง พูดเสียงต่ำ พูดเปิดเผยพูดกระซิบ ทำซิกซี้ด้วยการฟ้อน การขับ การประโคม ร้องไห้ กรีดกรายด้วยการแต่งกาย ทำปิ่ง ยักเอว ส่ายผ้าที่ปิดของลับ เลิกขา ปิดขา ให้เห็นนมให้เห็นรักแร้ ให้เห็นท้องน้อย หลิ่วตา เลิกคิ้ว เม้มปาก แลบลิ้น ขยายผ้ากลับนุ่งผ้า สยายผม มุ่นผม ดูก่อนสหายปุณณมุขะ ได้ยินว่า หญิงย่อมยั่วยวนชายด้วยเหตุ ๔๐ ประการนี้แล.
พระธรรมเทศนาที่แสดงแก่พระภิกษุที่เบื่อหน่ายในเพศพรหมจรรย์ เพื่อให้ละความติดข้อง และให้เห็นโทษของสตรี เพื่อการประพฤติพรหมจรรย์อันประเสริฐต่อไป
ขออนุโมทนาค่ะขึ้นชื่อว่าบุคคลยังพอใจในเพศตรงข้าม ทั้งชายและหญิง...เท่าที่มองเห็นกันในยุคสมัยนี้คือ บุคคล...ไม่ว่าจะมองเห็นผู้ใด ขยับท่าไหน หากพอใจแล้ว เป็นอันคิดไปในทางว่าเขา
ยั่วยวนตนไปได้ทั้งนั้น คือ ตนเองนั้นแหละมักคิดไปเองต่างๆ นาๆ กับสิ่งที่มองเห็น
อัตภาพนี้เป็นผู้หญิงเสียด้วย อ่านแล้ว คงต้องระมัดระวังกิริยาของตัวเองมากๆ
เพราะแม้นไม่ได้ตั้งใจ แต่การไม่รู้จักระวังกิริยาก็อาจเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดได้
เพราะฉะนั้น จะโทษสิ่งที่ท่านเห็น หรือว่ากิเลสของท่านเอง
ได้ความรู้เพิ่มขึ้นค่ะ เมื่อไม่รู้จึงประมาท ยังความไม่ประมาทให้เกิดขึ้น
สาธุ อนุโมทนา
ทุกอย่างเป็นไปเพราะจิต ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้กระทำ (หญิง) หรือ
ผู้เห็นแล้วคิด จะเป็นการยั่วยวนหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ "เจตนา" และ
การสะสมของจิต