คนที่จะศึกษาพระธรรมได้ จำเป็นต้องมีอายุมากก่อนแล้วค่อยศึกษาพระธรรมหรือไม่อย่างไร
ไม่จำกัดอายุ แต่ควรศึกษาตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ควรรอ เพราะชีวิตเป็นของไม่แน่นอน สมัยครั้งพุทธกาล ผู้ที่ฟังธรรมแล้วบรรลุเป็นพระอริยบุคคลมีอายุน้อยๆ ก็มี เช่น บางท่านอายุ ๕ ปี บางท่าน ๗ ปี
[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ หน้าที่ 26
๙. ปฐมอายุสูตร
ว่าด้วยอายุน้อย
[๔๔๐] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :- สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวันอันเป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต กรุงราชคฤห์ ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ดังนี้. ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อายุของมนุษย์ทั้งหลายนี้น้อยนัก จำต้องไปสู่สัมปรายภพ ควรทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์ สัตว์ผู้เกิดมาแล้วจะไม่ตายไม่มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนที่เป็นอยู่นานย่อมเป็นอยู่ได้เพียงร้อยปี หรือจะอยู่เกินไปได้บ้างก็มีน้อย.
[๔๔๑] ครั้งนั้น มารผู้มีบาปได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า อายุของมนุษย์ทั้งหลายยืนยาว คนดีไม่ควรดูหมิ่นอายุนั้นเลย ควรประพฤติดุจเด็กอ่อนที่เอาแต่กินนม ฉะนั้น ไม่มีมัจจุมาดอก.
[๔๔๒] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า นี่มารผู้มีบาป จึงได้ตรัสกะมารผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า อายุของมนุษย์ทั้งหลายน้อย คนดีควรดูหมิ่นอายุนั้นเสีย ควรประพฤติดุจคนที่ถูกไฟไหม้ศีรษะ ฉะนั้นการที่มัจจุไม่มา จะไม่มีเลย. ครั้งนั้น มารผู้มีบาป เป็นทุกข์เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้จักเรา พระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้จึงได้อันตรธานไปในที่นั้นแล.
คนที่สนใจศึกษาธรรมะ เป็นผู้ที่ได้ทำบุญมาแล้วแต่ปางก่อน เพราะฉะนั้นใครที่สนใจฟังธรรมะตั้งแต่อายุน้อยๆ ก็โชคดีมากน่ะค่ะ
เห็นด้วยค่ะ ขออนุโมทนา เคยได้ยินคตินิยมของชนชาติหนึ่งซึ่งเก่งในการค้าขายอย่างมาก ท่านเล่าสู่ดิฉันฟังว่า เมื่อเล็กให้ตั้งใจเรียนและขยันช่วยงานบ้าน พอถึงวัยหนุ่มแข็งแรงให้ตั้งใจทำงาน ประหยัด และหาเงินสะสมมากๆ เมื่อถึงวัยชราจะได้สบาย แล้วค่อยเข้าวัดทำบุญเมื่อถึงวัยเกษียณก็ได้ เพราะสะสมทรัพย์ไว้พอเลี้ยงตัวและไม่ลำบากแล้ว มองกันทางโลกแบบด้านเดียว ก็อาจเห็นว่าคตินิยมนี้ ใช่เลย แต่ถ้าได้มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นกันอย่างจริงๆ บนโลกใบนี้แล้ว จะเห็นว่า มีคนตายเมื่อวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน ไม่ทันได้หอบเงินไปทำบุญที่วัดเมื่อแก่ตามคตินิยมที่ท่องไว้จนขึ้นใจ ก็มีเป็นจำนวนมากมายนัก ผู้ที่สะสมมาดี ได้ฟังและศึกษาธรรมะตั้งแต่อายุน้อยๆ ในวัยที่ร่างกายยังแข็งแรง ดวงตายังแจ่มใสอยู่นับว่าเป็นผู้ที่โชคดีอย่างยิ่งค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
สนใจธรรมะตั้งแต่เด็กๆ น่ะค่ะ แต่ไม่เคยเจอพระธรรมที่แท้เลย โดนชวนไปนั่งสมาธิวิปัสสนาอยู่ตั้งนานตอนนี้อายุ 22 ไม่รู้จะทันหรือเปล่า จะตายวันไหนก็ได้ทั้งนั้น ถ้าลงนรกหรือไปเป็นเดรัจฉาน หรือเป็นเปรตเป็นอสูรล่ะแย่เลย
ปัจจุบันขณะเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด กุศลหรืออกุศลจะเกิดก็ในขณะนี้ ขอให้เป็น "ผู้ที่มีราตรีหนึ่งเจริญ" นะคะ
ขออนุโมทนาครับ