พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญบารมี ๔ อสงไขย์แสนกัปป์ กว่าจะบรรลุยังยากเลย ขนาดระลึกชาติได้ เห็นสัตว์เกิดสัตว์ตาย แผ่นดินก็ยังไม่ไหว ต่อเมื่อพระพุทธองค์ทรงบรรลุอาสวขยญาณคือ ญาณที่ดับกิเลสหมดแผ่นดินจึงไหว เมื่อแรกที่ตรัสรู้ใหม่ๆ ไม่ทรงน้อมใจที่จะแสดงธรรม เพราะธรรมะที่ตรัสรู้ลึกซึ้งแสนยาก เพราะฉะนั้น การฟังธรรมะไม่ใช่แค่วันหนึ่ง สองวัน เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง ชาติหนึ่ง ต้องตลอดไปจนกว่าจะบรรลุ มรรค ผล นิพพานคะ
ขออนุโมทนากับคุณ วรรณี มา ณ ที่นี้
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เรื่อง พระพุทธเจ้าไม่ทรงน้อมพระทัย ที่จะแสดงธรรมเมื่อแรกตรัสรู้เพราะเหตุอะไร
เชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
ความที่ธรรมเป็นสภาพลึกซึ้ง [ปาสราสิสูตร]
สาธุ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขออนุโมทนา..
แสดงรายละเอียดต่อซิค่ะ ว่าแล้วทำไมจึงเปลี่ยนพระทัย ฟังเล่าตามๆ กันมาว่ามีใครมาอารธนา จริงหรือเปล่าค่ะ แล้วนั่นคือใคร แล้วอารธนาอย่างไรจึงทำให้ทรงเปลี่ยน พระทัยให้ทรงมีมหากรุณาได้ แสดงว่าท่านผู้นั้นมีมหากรุณาแก่มวลมนุษย์ และถ้าเผอิญไม่มีผู้มาอารธนาพระองค์จะแสดงธรรมโปรดเหล่าสัตว์ไหมค่ะ
เป็นพุทธประเพณีที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะต้องมีพรหมอารธนาให้แสดงธรรม ท้าวสหัมบดีพรหมเป็นผู้อารธนาเทวดา และพรหมหมื่นโลกธาตุก็มาพร้อมกับ ท้าวสหัมบดีพรหมด้วย พรหมบอกว่าขอให้พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม เพราะว่าหมู่ สัตว์ที่มีกิเลสคือ ธุลีในดวงตาน้อยมีอยู่ ถ้าไม่ได้สดับธรรมก็จะเสื่อม พระพุทธองค์ ทรงตรวจดูสัตว์โลก ทรงเห็นว่า หมู่สัตว์ที่สามารถบรรลุได้ยังมีอยู่จึงทรงรับอารธนา ค่ะ
ลำดับการแสดงพระธรรม
สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางธรรมมาก่อนจะทรงเทศน์ "อนุปุพพิกถา" ซึ่งว่าด้วยเรื่อง คุณของการให้ทาน การรักษาศีล สวรรค์ (การแสวงสุขเนื่องจากการให้ทาน การรักษาศีล) โทษของกามและการปลีกตัวออกจากกาม จากนั้นจึงทรงเทศนาอริยสัจ ๔
รบกวนท่านผู้รู้ช่วยอธิบาย หรือขยายความ ข้อความนี้ให้ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ"เหมือนน้ำเต้าเต็มด้วยน้ำข้าว เหมือนตุ่มเต็มด้วยเปรียง และเหมือนมือเปื้อนยาหยอดตา"
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
จากความเห็นที่ 13
เป็นการแสดงการเปรียบเทียบกับหมู่สัตว์ที่หนาไปด้วยกิเลส ถูกกิเลสครอบงำ และจะให้พ้นจากกิเลสได้ยาก เช่น น้ำเต้าที่เต็มด้วยน้ำข้าว น้ำเต้าก็ย่อมเปื้อนน้ำ ข้าวมากมาย เหมือนหมู่สัตว์เต็มไปด้วยกิเลส ยากที่จะละกิเลส หรือเปรียบเหมือนมือที่เปื้อนยาหยอดตา ก็ย่อมฉาบทามือให้เหนียว เหมือนกิเลสที่ฉาบทาและเกิดมากในหมู่สัตว์ ยากที่จะล้างออก หรือยากที่จะละกิเลสครับ ในบางแห่งแสดงเปรียบเทียบ หมู่สัตว์มากไปด้วยกิเลสเหมือนท่อนผ้าเก่าที่ชุ่มด้วยน้ำมันเหลว ผ้าก็เหมือนหมู่สัตว์ ที่ถูกกิเลสครอบงำคือน้ำมันเหลว ยากที่จะซักออกหรือละกิเลสได้ครับ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 685
ข้อความบางตอนจาก ปปัญจชยสูตร
ทรงเห็นสันดานของสัตว์ที่เพียบไปด้วยกิเลสเศร้าหมองไปด้วยกิเลสมีราคะ เป็นต้น ที่เปลื้องได้แสนยาก เหมือนกะโหลกน้ำเต้าที่เต็มไปด้วยน้ำข้าว เหมือนภาชนะที่เต็มไปด้วยเปรียง และ เหมือนท่อนผ้าเก่าที่ชุ่มด้วยน้ำมันเหลว
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ยินดีในกุศลจิตค่ะ