น่ากลัว กว่า ผี
โดย ใหญ่ราชบุรี  25 ส.ค. 2557
หัวข้อหมายเลข 25393

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

กราบเท้า บูชา พระคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาสำหรับกุศลทุกประการของทุกๆ ท่านค่ะ

ด้วยความเคารพยิ่ง จาก ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี (ใหญ่ราชบุรี)

ขอเชิญรับฟัง...

น่ากลัวกว่าผี

แต่ อะไร ที่น่ากลัวกว่า-ผี ทุกอย่าง เป็นความจริง ใช่ไหมคะ “กลัว” มีจริง “กลัวผี” ก็มีจริงๆ ถ้า ไม่มีธาตุรู้ ไม่มีจิต ก็ ไม่มีสังสารวัฏฏ์ ปรินิพพานไปแล้ว จะมีสังสารวัฏฏ์อีกได้ยังไง เมื่อ ไม่มีธาตุรู้ เกิดขึ้น อะไร ก็ไม่ปรากฏอีกเลย แต่-ทุกขณะ ขาด ไปไม่ได้ เพราะเหตุว่า “มี การเกิดสืบต่อ” จะรู้ หรือ ไม่รู้ ก็ตาม

เพราะฉะนั้น “กลัว” มี “กลัวผี” ก็มี ใคร ไม่กลัวผี “เพราะไม่รู้ว่า ผีคืออะไร” ใช่ไหมคะ ถ้ารู้จะยิ่งกลัวหรือเปล่า เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ ว่า ถ้าเข้าใจ “ธรรม สิ่งที่มีจริง” ไม่พ้นจาก ตา ได้ยินทางหู แล้วก็ “คิด” ได้กลิ่น แปลกๆ เดี๋ยวจะกลัวกันอีก กลิ่นแปลก มีแน่ๆ แต่ก็ เป็น เพียง “กลิ่น” ที่ปรากฏ แล้วก็หมดไป ถ้าเข้าใจ อย่างลึกซึ้ง จริงๆ กลัวอะไร กลัวกลิ่นเหรอคะ ก็ไม่ใช่ ใช่ไหม แต่ ความคิดว่า สิ่งนั้นเป็นอะไร ด้วยความไม่รู้

เพราะฉะนั้น ก็เป็นลำดับขั้น ว่า “ความกลัว จะลดลงไปได้“ ก็ต่อเมื่อ “มี การเข้าใจ ความจริง เพิ่มขึ้น” .. “ไม่กลัวกิเลส” แต่กลัวผี คิดดู ก็แล้วกัน “เพราะไม่รู้” แต่ถ้า รู้ และก็กิเลสน้อยลง เข้าใจมากขึ้น “มีแต่-เสียง”

ถ้ารู้-ความจริง-ขณะนั้น “เสียง”จะเป็นอะไร ได้ไหม นอกจากเป็น”เสียง” .. “กลิ่น” จะเป็นอะไร ได้ไหม นอกจากเป็น”กลิ่น” .. “คิด” จะเป็นอะไร ได้ไหม “เป็น คิด” แล้วก็ดับ

เพราะฉะนั้น มั่นคง ที่จะ เข้าใจ ความจริง เพียงแต่ว่า เรา คิดถึง สิ่งที่ปรากฏ ถ้า ไม่คิด ก็ไม่กลัว มีคนหนึ่งนะคะ เขาก็ไปต่างประเทศ แล้วก็ไปพักที่โรงแรม ซึ่งมีชื่อเสียงว่าผีดุ แต่เขาก็ไม่รู้ค่ะ เขาก็นอน ตอนกลางคืน เตียงมันก็โยก เขาก็ว่า อ้อ คงมีแผ่นดินไหว ที่ไหน ก็ไม่รู้ แล้วก็หลับต่อ เห็นไหมคะ หลอกไม่สำเร็จ เพราะ คนนั้นไม่กลัว

แต่ ”ตราบใด-ที่มีกิเลส -ต้องกลัว” แต่แล้วแต่ว่า จะกลัวอะไร บางคน เขา บอกว่า เขาไม่กลัวผี เขากลัวคนมากกว่า ก็แล้วแต่ “กลัว” อะไร ก็คือ “กลัว” นั่นแหละ แต่ ต้อง รู้ว่า “กลัว ก็คือ ความไม่พอใจ ในสิ่งหนึ่งสิ่งใด ในรูปแบบต่างๆ ” เวลาโกรธ ก็แสดงว่า ไม่ชอบสิ่งนั้น ไม่ว่าจะ ทางตา หรือ ทางหู ได้ยิน คำพูด หรือ เห็นอะไร ก็ตามแต่ หรือ แม้แต่ เรื่องที่-คิด เวลาที่มี-กลิ่น-ที่เราไม่ชอบ ขณะนั้น-คงไม่กลัว-เพียงไม่ชอบ

แต่ว่า สภาพธรรมะ ใดๆ ก็ตาม ที่ไม่ทำให้ติดข้อง แต่ ทำให้อยากให้พ้นๆ ไปเสีย ตกใจมาก หรือ อะไรอย่างนี้ ทั้งหมด จะใช้ คำว่า ”โทสะ” แต่ หมายความถึง “สภาพธรรมะ อย่างหนึ่ง มีจริงๆ ซึ่งไม่ต้องการสิ่งนั้นเลย” แต่ว่า ออกมา ในรูปที่ เป็นเสียใจบ้าง เป็นน้อยใจบ้าง เป็นขุ่นใจบ้าง เป็นโกรธบ้าง เป็นริษยา เป็นอะไร ก็ตามแต่ ทั้งหมด ที่มันทำให้ ไม่เป็นสุข ก็รู้สึกว่า ไม่ชอบทั้งหมด

เพราะฉะนั้น ถ้าเข้าใจจริงๆ รู้จริงๆ ว่า “กลัว” ก็คือ “ลักษณะของความไม่พอใจ ในขณะนั้น” ไม่อยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น ไม่กลัว ”การปฏิบัติผิด” น่ากลัว ยิ่งกว่า ”ผี”

“ผี” นานๆ มา แต่ ”ความเห็นผิด” นี่อยู่เสมอเลย ตั้งแต่ “สักกายทิฏฐิ เห็นว่า เป็นเรา“ หรือ “อัตตานุทิฏฐิ เห็นว่า เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด” ถ้า-ไม่เห็น-เดี๋ยวนี้ ไม่มีผี เพราะ ”เป็นธรรมะ แต่ละหนึ่ง”

ถอดคำบรรยายธรรม โดย ใหญ่ราชบุรี – ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี



ความคิดเห็น 1    โดย nopwong  วันที่ 25 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย paderm  วันที่ 26 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย peem  วันที่ 26 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย chatchai.k  วันที่ 22 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ