เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
รูปที่เห็นเกิดดับกระผมพอเข้าใจ แต่แข็งเกิดดับเป็นอย่างไรครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การเห็นการเกิดดับในความเป็นจริง ที่จะไม่สงสัย คือ เมื่อประจักษ์ลักษณะที่กำลังเกิดดับที่เป็นวิปัสสนาญาณขั้นที่ 4 ดังนั้น เมื่อพูดถึงการเกิดดับ ก็เป็นเพียงขั้นการฟัง ที่คิดว่ามีการเกิดดับ แต่ ไม่ได้รู้ว่าเกิดดับจริงๆ ซึ่งสภาพธรรมที่เป็นสังขารธรรม ที่เป็นจิต เจตสิก รูปล้วนเกิดดับทั้งสิ้น แต่เห็นด้วยปัญญาระดับสูง
แข็งก็เป็นรูปธรรมก็เกิดดับ แต่ ไม่สามารถเห็นด้วยการคิด ด้วยตาเปล่า แต่แข็งก็เกิดดับไปตลอดเวลา จะเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม ครับ
การศึกษาธรรม เป็นการศึกษาเพื่อให้เข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมนั้นๆ ซึ่งต้องเข้าใจถูกว่า นามธรรมเป็นนามธรรม รูปธรรมเป็นรูปธรรม โดยไม่ปะปนกัน เป็นสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ซึ่งจะขาดการฟัง การศึกษาการพิจารณาไตร่ตรองในเหตุในผลของธรรมไม่ได้เลย และที่สำคัญการที่ปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก จะรู้ความจริง ก็ไม่ใช่ไปรู้สิ่งอื่น นอกจากสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏในขณะนี้จนกว่าจะค่อยๆ รู้ความจริงของสิ่งนั้นยิ่งขึ้น ไม่ใช่ไปรู้ความจริงของสิ่งที่ไม่ปรากฏหรือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง สิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้เป็นธรรมซึ่งสามารถศึกษาให้เข้าใจได้ เพราะมีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ปัญญาจะเจริญขึ้นก็ต้องจากการสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ.
เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
รูปเกิดดับอย่างเช่นปสาทรูปเกิดดับทุกขณะจิต แต่แข็งเป็นรูปที่รู้โดยกายวิญญาณ เมื่อไม่มีการสัมผัส ลักษณะแข็งไม่ปรากฏ จะเกิดดับอย่างไรครับ? ขอความกระจ่างด้วยครับ ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
เรียนความเห็นที่ 2 ครับ
รูป แม้ ไม่ได้รู้โดยจิต รูปก็มีอยู่ เช่น รูปในป่า รูปก็เกิดดับตามสมุฏฐานที่เขาเกิดตลอดเวลา เช่น รูปที่อยู่ในป่า ที่เกิดจาก อุตุเป็สมุฏฐาน ก็มีการเกิดดับตลอดเวลา จึงสามารถรู้ได้ว่าหินนั้นกร่อนทำลายไป ในระยะเวลาที่ยาวนาน เพราะ อาศัยการเกิดดับอยู่ตลอดเวลา แม้จะเห็น หรือไม่เห็นก็ตาม ครับ ดังนั้น แข็ง ที่เป็นรูปที่เกิดจากอุตุเป็นสมุฏฐาน แม้จะไม่มีใครไปรู้เลย ก็เกิดดับอยู่ตลอดเวลา ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
แข็ง เป็นแข็ง เป็นรูปธรรม ไม่ใช่เรา เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย
เป็นสภาพธรรมที่ปรากฏทางกาย ซึ่งมีจริงๆ ในชีวิตประจำวันเมื่อเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย มีหรือที่จะเที่ยงแท้ยั่งยืนเพราะไม่มีสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแม้อย่างเดียวที่เกิดแล้วจะไม่ดับ ล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดาด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นในขณะนี้ ยังไม่สามารถประจักษ์แจ้งความเกิดและดับไปของสภาพธรรมอย่าง แข็ง ได้ แต่ในการศึกษาในขั้นปริยัติ ก็เข้าใจได้ในเบื้องต้นว่าสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ทั้งหมด เกิดแล้วดับไป ไม่กลับมาอีกเลยและเห็นได้ว่า เมื่อเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ควรหรือที่จะติดข้องยินดีพอใจในเพียงสิ่งที่เกิดดับ ก็เป็นประโยชน์ตั้งแต่ต้นจริงๆ สำหรับความเข้าใจสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
รูปตามความเห็นที่ 2 หากบุคคลทั่วไปเช่นข้าพเจ้าที่ได้ฟังธรรมมาระยะหนึ่ง เห็นรูปในความเห็นที่ 2 เป็น ภูเขา ต้นไม้ ลำธาร ที่เกิดดับจะเห็นหรือไม่เห็นก็ตามใช่หรือไม่ แต่มีรูปธรรมอีกหนึ่งที่เรามองเห็นว่าเป็นคน สัตว์ สิ่งของนั้น แท้จริงไม่ใช่ ใช่หรือไม่ ต้องขอความอนุเคราะห์ท่านอาจารย์ด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
เรียนความเห็นที่ 5 ครับ
สิ่งที่ปรากฏเป็นภูเขา ต้นไม้ แม้จะเห็น หรือไม่เห็นก็ตาม สิ่งเหล่านี้ คือ การประชุมกันของสภาพธรรมแต่ละอย่างที่เป็นรูปธรรมที่เกิดด้วยอุตุเป็นเหตุ ซึ่งจะมีการเกิดดับตลอดเวลา จะเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม ครับ
ซึ่งคน สัตว์ บุคคล ต้นไม้ ภูเขา ไม่มี แต่ บัญญัติเรียกเพราะ อาศัย การประชุมกันของสภาพธรรมที่มีจริงที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม ครับ ขออนุโมทนา
ขอขอบคุณและอนุโมทนาคะ
รูปเกิด-ดับ
รู้ได้เพราะจิตทำหน้าที่
รูปที่เกิด-ดับแต่จิตไม่ได้รู้ก็มี
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ ที่ได้ชี้แจงให้เข้าใจเพิ่มขึ้น
วิปัสสนาญานขั้นที่ 4 นั้นรู้การเกิดดับของนามธรรมไม่ใช่รู้การเกิดดับของรูปใช่ไหมคะ
เพราะวิปัสสนาญานเกิดทางมโนทวารเท่านั้น♣♧
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ