ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 364
ข้อความบางตอนจาก อรรถกถา พรหมมายุสูตร
ได้ยินมาว่า พราหมณ์คนใดคนหนึ่งในกรุงราชคฤห์ฟังมาว่า เขาเล่าลือกันว่า ใครๆ
ไม่สามารถวัดประมาณ (ขนาด) ของพระสมณโคดมได้ จึงในเวลาที่พระผู้มีพระภาค
เจ้าเสด็จเข้าไปบิณฑบาต เขายืนถือไม่ไผ่ยาวหกสิบศอก .อยู่ภายนอกประตูเมือง
พอพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จถึง จึงถือไม้ไผ่ยืนอยู่ใกล้ๆ . ไม้ไผ่ยาวเพียงพระ
ชานุของพระผู้มีพระภาค. วันรุ่งขึ้น เขาเอาไม้ไผ่ต่อเข้า ๒ ลำ แล้วได้ยืน
เทียบอยู่ในที่ใกล้ๆ . พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าพราหมณ์ ท่านทำอะไรปรากฏแต่เพียงไม้ไผ่ ๒ ลำ (ต่อ) บนไม้ไผ่ ๒ ลำ.
พ. ข้าพระองค์จะวัดขนาดของพระองค์.
ภ. พราหมณ์ แม้หากว่าท่านเอาไม้ไผ่มาต่อจนเต็มห้องจักรวาลทั้ง
สิ้นแล้ว ยืนเทียบอยู่ในที่ใกล้ ท่านก็ไม่อาจวัดขนาดของเราได้ เพราะเราบำเพ็ญ
บารมีมาสิ้นสี่อสงไขยแสนกัป โดยประการที่คนอื่นจะพึงวัดขนาดของเรานั้นหา
มิได้ พระตถาคตนับคำนวณไม่ได้ ประมาณไม่ได้ ดังนี้แล้วตรัสพระคาถาใน
พระธรรมบท. ในเวลาจบพระคาถา สัตว์แปดหมื่นสี่พันดื่มน้ำอมฤตแล้ว.
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 364
ข้อความบางตอนจาก อรรถกถา พรหมมายุสูตร
ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง. เขาว่า ท้าวอสุรินทราหูสูงถึงสีพันแปดร้อยโยชน์ระหว่าง
แขนกว้างหนึ่งพันสองร้อยโยชน์. ฝ่ามือฝ่าเท้ากว้างสามร้อยโยชน์. ข้อนิ้วมือห้าสิบ
โยชน์. ระหว่างคิ้วกว้างห้าสิบโยชน์. หน้าผากกว้างสามร้อยโยชน์.ศีรษะเก้าร้อย
โยชน์. ท้าวราหูนั้นไม่มาเฝ้าด้วยคิดว่า เราสูง ไม่อาจก้มดูพระศาสดา. วันหนึ่ง
ได้ฟังการพรรณนาคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงเสด็จมาเฝ้าด้วยความคิดเสียว่า
จักดูตามแต่จะดูได้
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบอัธยาศัยของท้าวเธอ จึงทรงพระดำริว่า เราจักแสดงโดย
อิริยาบถไหนในบรรดาอิริยาบถทั้ง ๔ แล้ว ทรงดำริสืบไปว่า ธรรมดาคนยืนแม้จะต่ำ
ก็ปรากฏเหมือนว่าสูง เราจักนอนแสดงตนแก่ท้าวเธอ ดังนี้แล้ว ตรัสว่า อานนท์
เธอจงลาดเตียงน้อย ณ บริเวณพระคันธกุฎี แล้วทรงสำเร็จสีหไสยาสน์บนเตียง
น้อยนั้น.ท้าวราหูเสด็จมา แล้วชะเง้อคอมองดูพระผู้มีพระภาคเจ้าที่ทรงบรรทมอยู่.
เหมือนแหงนคอดูพระจันทร์เพ็ญในท่ามกลางนภากาศ ฉะนั้น. และเมื่อพระผู้มีพระ
ภาคเจ้าตรัสว่า นี้อะไรกัน จอมอสูรก็กราบทูลว่า ข้าพระองค์ไม่มาเฝ้าด้วยคิด
ว่า ข้าพระองค์ไม่อาจก้มดูพระผู้มีพระภาคเจ้า. พระศาสดาตรัสว่า จอมอสูร เรา
มิได้บำเพ็ญบารมี เหมือนอย่างก้มหน้า เราให้ทานกระทำให้มีผลเลิศ ชั้นสูงทั้ง
นั้น. วันนั้น ท้าวราหูได้ถึงสรณะ. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีโอกาสมิใช่น้อยที่จะ
ได้เห็นด้วยประการอย่างนี้.
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
สิ่งที่วัดไม่ได้ คือ อวิชชาที่ทำให้เราวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ที่ยาวนาน หาเบื้องต้น เบื้องปลายไม่มีที่สุด
พระพุทธเจ้าทรงแสดงสติปัฏฐานเพื่อให้รู้จักโลกทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ขออนุโมทนาค่ะ
บารมีไหนก็ให้ผลอยู่ในวัฏฏะ...แต่บารมีของพระพุทธเจ้านำไวไนยสัตว์ออกจากวัฏฏะโดยแท้ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา