หลายวันมานี้ได้โต้ตอบธรรมะกับหลายๆ ท่าน ก็ได้เห็นจิตใจตนเองมาก ทำให้รู้ว่า ตนเองยังไม่ไปถึงไหนเลย สู้กับหลายๆ ท่านยังไม่ได้เลย เห็นแต่ความไม่สะอาดของจิตใจตนเอง หลายปีที่จากหน้าเว็บไป กลับมาอีกครั้งก็เห็นหลายคนก็ยังอุทิศเวลาส่วนตนมาทำหน้าที่ให้ธรรมะเป็นธรรมทาน โดยเฉพาะอาจารย์ผเดิมแล้ว ขอแสดงความนับถือด้วยใจจริงครับ
saree
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นธรรมดา ที่ยังเป็นปุถุชนที่มีกิเลส เพราะสะสมกิเลสมามาก จะให้หมดทันทีคงเป็นไปไม่ได้ครับ แต่ค่อยๆ ละด้วยการจริญอบรมปัญญา พระธรรมของพระพุทธเจ้า ย่อมเกื้อกูลต่อผู้ที่สดับ รับฟัง และ เห็นประโยชน์ และไม่ละทิ้งพระธรรมที่ถูกต้อง ครับ
ขออนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ และ วิทยากร สหายธรรมทุกๆ ท่าน ที่ร่วมกันเผยแพร่ และ ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง และขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณ saree มา ณ ที่นี้ ด้วย ครับ ขอให้ฟังพระธรรม สนทนาธรรมกันในเว็บนี้ต่อไป ครับ
ขออนุโมทนาด้วยใจจริง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงคำกล่าวตอนหนึ่งของท่านอาจารย์ ในวันวิสาขบูชาที่เพิ่งผ่านไปว่า
"... มีความไม่รู้แค่ไหน ที่จะต้องรู้จักตัวเองตามความเป็นจริง
เพราะฉะนั้น ก็ฟังพระธรรม เพื่อเข้าใจขึ้น
ในสิ่งที่มีในขณะนี้ ตามความเป็นจริง
ไม่ใช่หมายความว่า เราหวังจะไปรู้แจ้ง อริยสัจจธรรม
โดยไม่รู้ลักษณะ ของสภาพธรรมะ ที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ..."
อนึ่ง ขอเชิญคลิกชมวีดีโอบางตอนในวันวิสาขบูชาที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
กราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้เดินทางร่วมกันในสังสารวัฏฏ์ การมีโอกาสได้เกื้อกูลกันให้ได้เข้าใจธรรมตามความเป็นจริง ตรงตามพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง นั้น เป็นสิ่งที่มีค่ามาก เพราะจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ คือ ความเจริญขึ้นของปัญญาอย่างแท้จริง ถ้าไม่ได้อาศัยกัลยาณมิตรผู้ที่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็ไม่สามารถที่จะอบรมเจริญปัญญาได้เลย การไดัฟังพระธรรม ได้ศึกษาพระธรรม เป็นของยาก ก็เพราะผู้ที่จะเข้าใจพระธรรมตามความเป็นจริง แล้วเกื้อกูลให้ผู้อื่นได้เข้าใจด้วยนั้น หายาก นั่นเอง จึงเป็นโอกาสที่ดีในชีวิตอย่างยิ่ง ที่จะทุกๆ ท่านได้ฟังพระธรรม ได้ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาต่อไป ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ. ผเดิม, และ ทุกๆ ท่านด้วยครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
อาจารย์วิทยากรทุกท่าน, อาจารย์ผเดิม, อาจารย์คำปั่น
ขอบพระคุณทุกๆ ท่านในที่นี้ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
จุดประสงค์ของการฟังธรรม เพื่อขัดเกลากิเลส ขัดเกลาอวิชชา อบรมปัญญา ค่ะ
ถือว่าเป็นกุศลวิบากจริงๆ ครับ ที่ได้มีโอกาสพบกัลยาณมิตรที่เกื้อกูลให้เกิดความเข้าใจในพระธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาแห่งนี้
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคณะอาจารย์วิทยากรของมูลนิธิฯ รวมถึงท่านอาจารย์คำ
ปั่น, อาจาย์ผเดิม และ ท่านผู้รู้ซึ่งเป็นสหายธรรมทุกๆ ท่าน ที่เกื้อกูลความเข้าใจธรรมะ
ที่ตรงและถูกต้องที่สุด เพื่อประโยชน์จริงๆ จากการศึกษาพระธรรม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"คบบัณฑิต นำมาซึ่งความเจริญทั้งปวง"
ขอบคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.ผเดิม, อ.คำปั่น และทุกๆ ท่าน
ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะ ของคุณผเดิม
ตลอดจนทีมงานและสหายธรรมทุกๆ ท่าน
ที่มีส่วนร่วมในเผยแพร่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ
พระสัทธรรม ... ยิ่งเผยแพร่ ยิ่งรุ่งเรือง
[เล่มที่ 14] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 360
ข้อความบางตอนจาก มหาสติปัฏฐานสูตร
ในสัจจะเหล่านั้น สัจจะ ๒ เบื้องต้น ชื่อว่า ลึกซึ้ง เพราะเห็นได้ยาก
สัจจะ ๒ เบื้องหลัง ชื่อว่าเห็นได้ยาก เพราะลึกซึ้ง.
ความจริง ทุกขสัจปรากฏตั้งแต่เกิดมา ถึงกับกล่าวกันว่า ทุกข์หนอ ในเวลาที่ถูกตอและหนามตำเป็นต้น.
แม้สมุทัยสัจก็ปรากฏตั้งแต่เกิดมา ด้วยอำนาจอยากเคี้ยว อยากกินเป็นต้น. แต่แม้ทั้งสองสัจจะนั้นก็ชื่อว่าลึกซึ้ง โดยลักษณะ และการแทงตลอด.
สัจจะ ๒ นั้น ชื่อว่าลึกซึ้ง เพราะเห็นได้ยากด้วยประการฉะนี้.
ส่วนความพยายามเพื่อเห็นสัจจะ ๒ นอกนี้ ก็เป็นเหมือนเหยียดมือจับภวัคคพรหม เหยียดเท้าไปต้องอเวจีนรก และเป็นเหมือนเอาปลายขนทราย กับปลายขนทรายที่แยกออก ๗ ส่วน ให้จดติดกัน.
สัจจะ ๒ เบื้องปลายเหล่านั้น ชื่อว่าเห็นได้ยาก เพราะลึกซึ้งด้วยประการฉะนี้.
ขออนุโมทนาเจ้าของกระทู้ ที่ยังเห็นอกุศลของตน ซึ่งแสดงว่าเป็นผู้มีความเข้าใจดีว่า พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงนั้นเป็นสิ่งที่ละเอียด ลึกซึ้ง รู้ตามได้ยาก และยังเห็นโทษของอกุศลอีกด้วย
ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้ว่า พระธรรมเป็นสิ่งที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่จะเข้าใจได้โดยง่าย และเร็ว พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้นั้นมีมากมาย ไม่เพียงแต่เกื้อกูลให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏซึ่งเป็นการอบรมเจริญสติปัฏฐาน ยังให้เกิดความเข้าใจซึ่งเป็นปัญญาขั้นพิจารณาได้ถูกต้องให้เกิดความเห็นถูกแทนอกุศล เพราะกิเลสที่สะสมมานั้นมีมาก ทำให้ในชีวิตประจำวันนั้นอกุศลเกิดมาก ทันทีที่เห็นสิ่งที่น่าพอใจ หรือ ไม่น่าพอใจ อกุศลก็เกิดต่อทันที ไม่เปิดโอกาสให้สติปัญญาน้อมพิจารณาสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ
เพราะฉะนั้น การมุ่งรู้ธรรมที่กำลังปรากฏเพียงอย่างเดียว จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย จะต้องเห็นโทษของอกุศลที่มีมากมายที่ได้สะสมมา มิเช่นนั้นพระผู้มีพระภาคก็จะไม่ทรงแสดงพระธรรมไว้มากมายที่จะเป็นเหตุให้ผู้ฟังเกิดกุศลธรรมแทนอกุศลธรรม
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพยิ่ง
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ. ผเดิม, อ. คำปั่น และทุกๆ ท่านด้วยค่ะ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิต กุศลกรรม กุศลธรรม ของทุกๆ ท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"พระธรรมของพระพุทธเจ้า ย่อมเกื้อกูลต่อผู้ที่สดับ รับฟัง และ เห็นประโยชน์ และไม่ละทิ้งพระธรรมที่ถูกต้อง"
ขอกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ และขอบพระคุณ อ.ผเดิม, อ.คำปั่น ตลอดจนวิทยากร และสหายธรรมทุกๆ ท่าน ที่ร่วมกันเผยแพร่ และ ศึกษาพระธรรม ที่ถูกต้อง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ