จากคำบรรยาย ชุดเทปวิทยุ ครั้งที่ ๒๑๐๖
อะไรก็ตามที่จะเตือนให้ได้พิจารณาธรรม เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ แม้ว่าจะเป็นวันเดือนปีที่ผ่านไป และชาวโลกนิยมนับถือกันว่าปีใหม่และปีเก่าก็ตาม แต่ว่าสำหรับผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติธรรมก็ยังอาศัยเหตุนั้นเป็นเครื่องระลึกได้ว่า ได้มีความเข้าใจในสภาพธรรมมากน้อยแค่ไหน เพิ่มขึ้นแล้วมากน้อยแค่ไหน เพราะคำว่า “พหูสูต” คือ ผู้ที่ฟังพระธรรมแล้วเข้าใจอรรถของพระธรรม ถึงแม้จะเป็นผู้ที่ฟังน้อย เพราะคงจะมีส่วนมากทีเดียว ที่ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎกจบทั้งอรรถกถาฎีกา
แต่เป็นผู้ที่พิจารณาข้อความที่ได้ฟังแม้น้อย โดยที่ไม่ผ่านไป เช่น คำว่า "จิต" เป็นสภาพรู้เป็นลักษณะรู้ เป็นธาตุรู้ เพียงคำเดียวนี้ และมีอยู่ทุกขณะ แต่ว่าเข้าใจลักษณะของจิตจริงๆ สติระลึกตรงลักษณะของจิต ซึ่งเป็นสภาพรู้ เป็นธาตุรู้ เพิ่มขึ้นพอที่จะพิจารณาได้ว่า มีความคุ้นเคยและชินกับสภาพที่ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ซึ่งเป็นเพียงธาตุรู้ หรือสภาพรู้ ซึ่งแต่ก่อนนี้ไม่เคยรู้ เมื่อหลายปีก่อนก็ไม่เคยได้ยินได้ฟังเลย และเมื่อมีการได้ยินได้ฟังขึ้น
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงคำเดียวคือ คำว่า “จิต” แต่ก็ยังสามารถที่จะเกื้อกูลให้ผู้ที่พิจารณาธรรม ไม่ผ่านเลยไป แต่พยายามที่จะศึกษาด้วยการระลึกได้ รู้ว่าในขณะที่กำลังเห็นในขณะนี้ เป็นธาตุรู้อย่างไร เป็นอาการรู้อย่างไร และสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา ก็เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่สามารถกระทบกับจักขุปสาทเท่านั้น ที่มีความสำคัญว่า เป็นสัตว์ เป็นบุคคลต่างๆ ตามความเป็นจริงแล้วก็ลดความสำคัญลง จนกระทั่งเหลือเพียงเป็นสิ่งที่มีจริงอย่างหนึ่ง ที่สามารถที่จะปรากฏเมื่อกระทบกับจักขุปสาท ในขณะที่จักขุปสาทยังไม่ดับเท่านั้นเอง เมื่อจักขุปสาทดับ การเห็นก็ดับ สิ่งที่ปรากฏทางตาก็ดับ นี่คือทุกขอริยสัจ คือ ความจริง
ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมะ แต่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ เราก็ไม่รู้ตัวจริงของธรรมะเราก็ต้องอาศัยการฟังธรรมะ จนกว่าสัญญาจะมั่นคงจริงๆ ว่าเป็นธรรมะอย่างหนึ่ง
ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
เมื่อจักขุปสาทดับ การเห็นก็ดับ สิ่งที่ปรากฏทางตาก็ดับ ข้อความนี้หมายความว่าอย่างไรครับ ช่วยขยายความด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
คำถาม จากความคิดเห็นที่ ๕
ก่อนอื่นต้องรู้ว่า
๑. จักขุปสาท คือ รูปที่มีกรรมเป็นสมุฎฐาน และเป็นที่เกิดของจักขุวิญญาณ
๒. การเห็น ก็คือ จักขุวิญญาณซึ่งอาศัยจักขุปสาทเป็นที่เกิด และจะเกิดขึ้นได้ต้องมีสิ่งที่ปรากฏทางตากระทบกับจักขุปสาท เป็นปัจจัยให้จิตเห็นเกิดเพราะฉะนั้น จักขุปสาท จึงเป็นตัวหลักในการเกิดการเห็นขึ้นได้ และมีอายุเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะในขณะที่จักขุวิญญาณเกิดขึ้นและดับไปโดยมีวิถีจิตทางตาเกิดสืบต่อกัน ๑๗ ขณะ จักขุปสาทรูปก็ดับ (เพราะรูปมีอายุเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ) สิ่งที่ปรากฏทางตาก็ไม่สามารถมากระทบได้ (ดับ) และจิตเห็นก็เกิดขึ้นไม่ได้เช่นกัน (เพราะต้องมีสิ่งที่ปรากฏทางตากระทบกับจักขุปสาทเป็นปัจจัย) ดังนั้น จึงกล่าวว่า เมื่อจักขุปสาทดับ การเห็นก็ดับ สิ่งที่ปรากฏทางตาก็ดับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ