[เล่มที่ 29] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ - หน้า 132
๒. ปฐมอิสิทัตตสูตร
ว่าด้วยอิสิทัตตภิกษุพยากรณ์ปัญหา
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 29]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ - หน้า 132
๒. ปฐมอิสิทัตตสูตร
ว่าด้วยอิสิทัตตภิกษุพยากรณ์ปัญหา
[๕๔๑] สมัยหนึ่ง ภิกษุผู้เถระมากด้วยกันอยู่ที่อัมพาฏกวัน ใกล้ราวป่ามัจฉิกาสณฑ์ ครั้งนั้นแล จิตตคฤหบดีได้เข้าไปหาภิกษุเถระเหล่านั้น ไหว้แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้อาราธนาว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ขอพระเถระทั้งหลาย โปรดรับภัตตาหารของกระผมในวันพรุ่งนี้ ภิกษุผู้เถระทั้งหลายได้รับอาราธนาโดยดุษณีภาพ ครั้งนั้นแล จิตตคฤหบดีทราบการรับอาราธนาของภิกษุเถระทั้งหลายแล้ว ลุกจากที่นั่ง กราบไหว้ กระทำประทักษิณแล้วจากไป.
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ - หน้า 133
[๕๔๒] ครั้งนั้นแล พอล่วงราตรีนั้นไป เป็นเวลาเช้า ภิกษุผู้เถระทั้งหลายนุ่งแล้วถือบาตรและจีวร พากันเข้าไปยังนิเวสน์ของจิตตคฤหบดี แล้วนั่งบนอาสนะที่ตกแต่งไว้ถวาย ครั้งนั้นแล จิตตคฤหบดีเข้าไปหาภิกษุผู้เถระทั้งหลาย ไหว้แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ถามพระเถระผู้เป็นประธานว่า ข้าแต่พระเถระผู้เจริญ คำที่กล่าวกันว่า ความต่างแห่งธาตุๆ ดังนี้ ความต่างแห่งธาตุ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ด้วยเหตุเท่าไรหนอแล.
[๕๔๓] เมื่อจิตตคฤหบดีถามอย่างนี้แล้ว พระเถระผู้เป็นประธานได้นิ่งอยู่ แม้ครั้งที่ ๒ จิตตคฤหบดีได้ถามพระเถระผู้เป็นประธานว่า ข้าแต่พระเถระผู้เจริญ คำที่กล่าวกันว่า ความต่างแห่งธาตุๆ ดังนี้ ความต่างแห่งธาตุ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ด้วยเหตุเท่าไรหนอแล แม้ครั้งที่ ๒ พระเถระผู้เป็นประธานก็ได้นิ่งอยู่ แม้ครั้งที่ ๓ จิตตคฤหบดีก็ได้ถาม พระเถระผู้เป็นประธานว่า ข้าแต่พระเถระผู้เจริญ คำที่กล่าวกันว่า ความต่างแห่งธาตุๆ ดังนี้ ความต่างแห่งธาตุ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ด้วยเหตุเท่าไรหนอแล แม้ครั้งที่ ๓ พระเถระผู้เป็นประธานก็ได้นิ่งอยู่.
[๕๔๔] ก็โดยสมัยนั้นแล ท่านอิสิทัตตะเป็นผู้ใหม่กว่าทุกรูปในภิกษุสงฆ์หมู่นั้น ครั้งนั้นแล ท่านอิสิทัตตะได้ขอโอกาสกะพระเถระผู้เป็นประธานว่า ข้าแต่พระเถระผู้เจริญ กระผมขอพยากรณ์ปัญหาข้อนั้นของจิตตคฤหบดี.
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ - หน้า 134
พระเถระกล่าวว่า ดูก่อนท่านอิสิทัตตะ เชิญท่านพยากรณ์ปัญหาข้อนั้นของจิตตคฤหบดีเถิด.
อิ. ดูก่อนคฤหบดี ก็ท่านกล่าวถามอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระเถระผู้เจริญ คำที่กล่าวกันว่า ความต่างแห่งธาตุๆ ดังนี้ ความต่างแห่งธาตุ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ด้วยเหตุเท่าไรหนอแล ดังนี้หรือ.
จิตต. อย่างนั้น ท่านผู้เจริญ.
อิ. ดูก่อนคฤหบดี ความต่างแห่งธาตุ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ ดังนี้ คือ จักขุธาตุ รูปธาตุ จักขุวิญญาณธาตุ โสตธาตุ สัททธาตุ โสตวิญญาณธาตุ ฆานธาตุ คันธธาตุ ฆานวิญญาณธาตุ ชิวหาธาตุ รสธาตุ ชิวหาวิญญาณธาตุ กายธาตุ โผฏฐัพพธาตุ กายวิญญาณธาตุ มโนธาตุ ธัมมธาตุ มโนวิญญาณธาตุ ดูก่อนคฤหบดี ความต่างแห่งธาตุ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ด้วยเหตุเท่านี้แล.
[๕๔๕] ครั้งนั้นแล จิตตคฤหบดีชื่นชมอนุโมทนาภาษิตของท่านอิสิทัตตะ แล้วได้อังคาสภิกษุผู้เถระทั้งหลายให้อิ่มหนำเพียงพอ ด้วยขาทนียโภชนียะอันประณีต ด้วยมือของตน ครั้งนั้นแล ภิกษุผู้เถระทั้งหลายฉันเสร็จแล้ว ลดมือจากบาตรแล้ว ลุกขึ้นจากอาสนะหลีกไป. ครั้งนั้นแล พระเถระผู้เป็นประธานได้กล่าวกะท่านอิสิทัตตะว่า ดีแล้ว ท่านอิสิทัตตะ ปัญหาข้อนั้นแจ่มแจ้งกะท่าน มิได้แจ่มแจ้งกะเรา ดูก่อนท่านอิสิทัตตะ ต่อไป ถ้าปัญหาเช่นนี้พึงมีมาแม้โดยประการอื่นในกาลใด ท่านนั่นแหละพึงกล่าวตอบปัญหาเช่นนั้นในกาลนั้น.
จบ ปฐมอิสิทัตตสูตรที่ ๒
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ - หน้า 135
อรรถกถาปฐมอิสิทัตตสูตรที่ ๒
พึงทราบวินิจฉัยในปฐมอิสิทัตตสูตรที่ ๒ ดังต่อไปนี้.
บทว่า อายสฺมนฺตํ เถรํ คือ ซึ่งมหาเถระผู้เป็นใหญ่ ในบรรดาพระเถระเหล่านั้น. บทว่า ตุณฺหี อโหสิ ความว่า พระเถระถึงจะรู้อยู่ ก็ไม่พยากรณ์อะไรๆ เพราะไม่กล้า. บทว่า พฺยากโรมหํ ภนฺเต ความว่า พระอิสิทัตตะคิดว่า พระเถระนี้ ย่อมไม่พยากรณ์ด้วยตน. พระเถระนี้ ย่อมไม่เชื้อเชิญ ฝ่ายอุบาสกย่อมเบียดเบียนภิกษุสงฆ์, เราพยากรณ์ปัญหานั้นแล้ว จักทำความอยู่ผาสุกให้ดังนี้ ลุกจากอาสนะไปยังสำนักของพระเถระ ได้ทำโอกาสอย่างนี้แล้ว ฝ่ายพระเถระผู้มีโอกาสอันตนทำแล้วนั่งบนอาสนะของตน พยากรณ์.
บทว่า สหตฺถา คือด้วยมือของตน. บทว่า สนฺตปฺเปสิ ความว่า ให้อิ่มหนำด้วยดีตามปรารถนา.
บทว่า สมฺปวาเรสิ ความว่า ให้พระเถระทั้งหลาย ห้ามด้วยหัตถสัญญาหรือด้วยวาจาว่า พอๆ ดังนี้. บทว่า โอนีตปตฺตปาณิโน ความว่า นำมือออกจากบาตร ล้างบาตรแล้วจึงเอาใส่ไว้ในถุงคล้องไว้ที่บ่าดังนี้.
จบ อรรถกถาปฐมอิสิทัตตสูตร ที่ ๒