สติปัฏฐาน ไม่ได้เกิดตลอดทุกขณะจิต แม้ในพระอริยบุคคลก็ตาม เพียงแต่ในจิตของพระอรหันต์ดับกิเลสทุกชนิดหมดแล้ว ไม่มีตัวตนต่อไป ไม่ต้องศึกษาอีกต่อไป ท่านเป็นอเสกขบุคคลแล้ว แต่ปุถุชน หรือเสกขบุคคล ย่อมยังมีตัวตนอีกค่ะ จนกว่า จะศึกษาจนสามารถดับกิเลส ดับทิฏฐานุสัย และมานานุสัยได้หมด
กรุณาตอบคำถามนี้ก่อนค่ะ ๑. พระอริยบุคคล มีกี่ประเภท แต่ละประเภท ดับกิเลสชนิดใดบ้าง ๒. พระอรหันต์ดับกิเลสอกุศลหมดสิ้นแล้ว จิตที่เกิด เป็นจิตชาติอะไร ประกอบด้วยเจตสิกอะไรบ้าง ๓. เสกขบุคคลและอเสกขบุคคล คือ ใคร ต่างกันอย่างไร
ถ้าตอบไม่ได้ กรุณาค้นหาคำตอบในเว็บบอร์ดนี้ เพื่อให้การศึกษาด้วยตัวเอง มีกำลังมากขึ้น
กริยาจิตมีสติเกิดร่วมด้วยไหมครับ
กิริยาจิตของปุถุชนไม่มีสติเกิดร่วมด้วย แต่สำหรับพระอรหันต์กิริยาจิตของท่านมี ๒ ประเภทคือ ไม่มีสติเกิดร่วมด้วยก็มี มีสติเกิดร่วมด้วยก็มี กิริยาจิตที่เป็นอเหตุกะไม่มีสติเกิดร่วมด้วย กิริยาจิตที่เป็น สเหตุกจิตมีสติเกิดร่วมด้วย
ฉะนั้นสติปัฏฐานเป็นแค่วิธีศึกษาของผู้ที่ต้องศึกษา ผู้ยังมีกิเลสอยู่ เหมือนเรือที่ใช้ข้ามฝั่ง เมื่อถึงฝั่ง จึงลงจากเรือ ผู้ไม่ต้องศึกษาอีกแล้ว ก็ทิ้งเรือเสียได้หรือ
ไม่ใช่เพียงแค่วิธีศึกษาครับ แต่เป็นยิ่งกว่าศาสตร์ความรู้ใดๆ ด้วยความที่มีประโยชน์สูงสุด ควรค่าแก่การศึกษา แล้วน้อมประพฤติปฏิบัติด้วยความเคารพ ถ้าบอกว่าแค่วิธีของผู้ที่ต้องศึกษา คือผู้ที่ยังมีกิเลส ก็เหมือนกับว่าเป็นศาสตร์หนึ่งๆ ที่ใครๆ ก็เรียนได้เพราะต่างก็มีกิเลสเหมือนๆ กัน ซึ่งความจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย การจะไปยังฝั่งที่ไม่มีกิเลส เป็นเรื่องที่แสนยาก ด้วยการสะสมกุศล - อกุศลมาเนิ่นนานต่างกันไปในแต่ละบุคคล หากไม่ใช่การฟังพระธรรมที่มาจากการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว สาวกก็ไม่มีทางที่จะเจริญสติปัฏฐานได้ และการถึงฝั่งพระนิพพานก็ไม่สามารถที่จะเป็นไปได้เช่นกัน (ไม่ทราบคุณ lichinda คิดอย่างไรครับ)
เห็นว่าเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ คือ มรรคามินีปฏิปทา มีองค์ ๘ เป็นทางเอกทางเดียว และผมเห็นด้วยกับ ajarnkruo ครับ เป็นศาสตร์สูงสุดยากที่จะสำเร็จด้วยการสอบไล่ การนับหน่วยกิต และการทดสอบใดๆ แต่สำเร็จด้วยการสะสมบารมี ศีลสมาธิ ปัญญา ครับ ผมไม่เปรียบเทียบกับสิ่งใดเลย แต่ผมต้องการถามท่านผู้รู้และผมก็เริ่มจะเข้าใจ คือ ผมจะต้องไปอ่านหนังสือที่หลายท่านแนะนำ และที่ถามเรื่องนี้ก็เพราะเคารพพระอรหันต์และสติปัฏฐานว่า ท่านต้องมีสติตลอดเวลา แต่ไม่มีใครแสดงความคิดเห็นโดยละเอียด ผมจึงเปิดกระทู้ซ้ำกันหลายกระทู้ครับ
อนุโมทนาค่ะ ที่เริ่มเข้าใจสิ่งที่ถาม ป้าตามไปตอบที่กระทู้บน พอมาพบที่กระทู้นี้ ก็เข้าใจคุณแล้วค่ะ
จริงๆ แล้ว ไม่ใช่คุณ Lichinda คนเดียวที่คิดอย่างนี้นะคะ หลายๆ คน ก็คิดเหมือนกันมาแล้ว เพราะเคยมีถามในการสนทนาธรรมมาหลายครั้ง และท่านอาจารย์ได้พยายามอธิบายเรื่องนี้ ตลอดมา
รวมทั้งเราเองสามารถศึกษาได้จากพระอภิธรรม ที่ได้แสดงไว้หมดแล้วค่ะ พระปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ละเอียดยิ่ง ลึกซึ้งยิ่ง เกินกว่าพวกเราจะเข้าถึงได้เพียงเดินตามรอยด้วยความเชื่อมั่นในพระองค์ท่านเท่านั้นค่ะ