กุศลทั้งหมดเว้นจากบาป
โดย nattawan  1 มี.ค. 2567
หัวข้อหมายเลข 47558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กุศลทั้งหมดเว้นจากบาป ขณะที่กุศลเกิด ขณะนั้นอกุศลไม่เกิด

ไม่ใช่เรา เป็นธรรมะ เข้าใจแม้เพียงเล็กน้อย

เข้าใจธรรมะที่กำลังปรากฏ มีความเข้าใจถูก ขณะนั้นเว้นบาป

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย nattawan  วันที่ 1 มี.ค. 2567

วันหนึ่งๆ ทุกท่านก็แสวงหาความเพลิดเพลินยินดี ไม่ว่าจะเป็นความเพลิดเพลินยินดีในธิดา ในบุตร ในทรัพย์ ในการเล่น ในการฟ้อน การขับประโคมดนตรีต่างๆ แต่ว่าความยินดีนั้นๆ ทั้งหมด ยังสัตว์ให้ตกไปในสังสารวัฏฏ์ แล้วเสวยทุกข์โดยแท้ ต่างกับความยินดีของผู้แสดงธรรมก็ดี ผู้ฟังธรรมก็ดี ผู้กล่าวสอนธรรมก็ดี ความยินดีในธรรมเห็นปานนี้แหละ ประเสริฐกว่าความยินดีทั้งปวง ...

ปันธรรม ฯ ๑๑๗


ความคิดเห็น 2    โดย nattawan  วันที่ 1 มี.ค. 2567

ในแต่ละวัน กุศลจิตเกิดน้อยมาก เทียบส่วนกับอกุศลจิตไม่ได้เลย ยิ่งถ้ามีความประมาทในชีวิตแล้ว ก็ยิ่งจะเกื้อหนุนต่อการที่จะทำให้อกุศลเกิดเพิ่มมากขึ้นไปอีก แต่ละคนเหลือเวลากันอีกไม่มากแล้วที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เพราะชีวิตสั้นมากจริงๆ

ปันธรรมฯ ๑๑๔


ความคิดเห็น 3    โดย nattawan  วันที่ 1 มี.ค. 2567

การเกิดในภพหนึ่งชาติหนึ่งนั้น สั้นมาก ไม่ยั่งยืนเลย เป็นที่พักชั่วคราวจริงๆ เกิดมาในแต่ภพแต่ละชาติ ก็ต้องสิ้นสุดที่ความตายทั้งนั้น พักเพียงชั่วคราว แล้วก็ต้องไปต่อ ยังต้องเดินทางต่อไปในสังสารวัฏฏ์ มีการเกิดอยู่ร่ำไป ตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลส ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม นั่นเอง ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน มีแต่ธรรม เท่านั้น

ปันธรรมฯ ๑๑๔


ความคิดเห็น 4    โดย nattawan  วันที่ 1 มี.ค. 2567

ถ้าใครเป็นผู้มักโกรธ ขุ่นเคืองใจไม่พอใจบุคคลอื่นง่ายๆ หรือว่าไม่ลืมซึ่งความโกรธ ความขุ่นเคืองนั้น ก็ควรที่จะระลึกรู้ความจริงว่าพบกันเพียงชาตินี้ชาติเดียวจริงๆ แล้วจะไม่พบกันอีกเลย เพราะฉะนั้นควรจะดีต่อกัน มีเมตตากัน หรือว่าควรจะโกรธกัน? เพราะว่าการเห็นกันครั้งหนึ่งๆ ไม่มีใครสามารถจะรู้ได้ว่าจะเป็นการเห็นกันครั้งสุดท้ายหรือไม่? เพราะถ้าคิดว่าอาจเป็นการเห็นกันครั้งสุดท้าย ก็อาจจะทำให้จิตใจอ่อนโยน แล้วมีความเมตตากรุณาต่อกัน

ปันธรรมฯ ๑๐๖


ความคิดเห็น 5    โดย nattawan  วันที่ 1 มี.ค. 2567

มีชีวิตเป็นไปตามการสะสม แต่เมื่ออาศัยพระธรรม มีศรัทธา ก็ทำให้ฟังและเข้าใจเพิ่มขึ้น การละเว้นในสิ่งที่ไม่ดี ก็มีเพิ่มขึ้น ตามกำลังของปัญญา กล่าวได้ว่าปัญญาเพิ่มขึ้น ทำให้มีการรักษาศีลได้ดียิ่งขึ้น พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นกระจกวิเศษที่ส่องให้เห็นกิเลสที่ตนเองได้สะสมมาตามความเป็นจริง แม้จะมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด แต่ก็ยังเป็นทุกข์ เพราะไม่มีทรัพย์ที่ประเสริฐที่เป็นอริยทรัพย์

ปันธรรมฯ ๙๙


ความคิดเห็น 6    โดย nattawan  วันที่ 1 มี.ค. 2567

แนะนำหนังสือ ...

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ บ้านคุณหมอทวีป คุณพรทิพย์ ถูกจิตร ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙


ความคิดเห็น 7    โดย chatchai.k  วันที่ 1 เม.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ