พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ -หน้าที่ 462๗. เรื่องอตุลอุบาสก [๑๘๐] ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภอุบาสก ชื่ออตุละ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " โปราณเมตํ " เป็นต้น. อตุละโกรธพระเรวตะเพราะท่านไม่พูดด้วย ความพิสดารว่า อตุละนั้นเป็นอุบาสกชาวกรุงสาวัตถี มีอุบาสกเป็นบริวาร ๕๐๐ คน วันหนึ่ง พาพวกอุบาสกเหล่านั้นไปวิหาร เพื่อต้องการฟังธรรม ใคร่จะฟังธรรมในสำนักพระเรวตเถระ ไหว้พระเรวต-เถระแล้วนั่ง. ก็ท่านผู้มีอายุนั้น เป็นผู้ยินดีในการหลีกเร้น เที่ยวไปผู้เดียวเหมือนราชสีห์, ฉะนั้น ท่านจึงไม่กล่าวอะไรกับอุบาสกนั้น เขาโกรธว่า " พระ-เถระนี้ ไม่กล่าวอะไร " จึงลุกขึ้น ไปยังสำนักพระสารีบุตรเถระ ยืนอยู่ณ ส่วนข้างหนึ่ง. เมื่อพระเถระกล่าวว่า " พวกท่านมาด้วยต้องการอะไร? "จึงกล่าวว่า " ท่านขอรับ ผมพาอุบาสกเหล่านี้เข้าไปหาพระเรวตเถระ เพื่อต้องการฟังธรรม, พระเถระไม่กล่าวอะไรแก่ผมนั้นเลย, ผมนั้นโกรธท่านจึงมาที่นี้, ขอท่านจงแสดงธรรมแก่ผมเถิด. " ลำดับนั้น พระเถระกล่าวว่า " ถ้าอย่างนั้น พวกท่านจงนั่งเถิดอุบาสกทั้งหลาย " แล้วแสดงอภิธรรมกถาอย่างมากมาย.
อตุละโกรธคนผู้พูดมาก
อุบาสกโกรธว่า " ชื่อว่าอภิธรรมกถา ละเอียดยิ่งนัก สุขุมยิ่งนัก,พระเถระแสดงอภิธรรมอย่างเดียวมากมาย, พวกเราต้องการอะไรด้วย
ฯลฯ
การนินทาสรรเสริญเป็นของเก่า พระศาสดา ทรงสดับถ้อยคำของเขาแล้ว จึงตรัสว่า " อตุละ ข้อนั้น เขาเคยประพฤติกันมาตั้งแต่โบราณทีเดียว, ชนทั้งหลายติเตียน ทั้งคนนิ่ง ทั้งคนพูดมาก ทั้งคนพูดน้อยทีเดียว, ด้วยว่าผู้อันเขาพึงติเตียนอย่างเดียวเท่านั้น หรือว่าผู้อันเขาพึงสรรเสริญอย่างเดียวไม่มีเลย; แม้พระราชาทั้งหลาย คนบางพวกก็นินทา บางพวกก็สรรเสริญ, แผ่นดินใหญ่ก็ดี, พระจันทร์และพระอาทิตย์ก็ดี, ธาตุมีอากาศเป็นต้นก็ดี, คนบางพวกนินทา บางพวกสรรเสริญ, แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประทับนั่งแสดงธรรมในท่ามกลางบริษัท ๔ บางพวกนินทา บางพวกสรรเสริญ;ก็การนินทาและสรรเสริญของพวกอันธพาลไม่เป็นประมาณ; แต่ผู้ที่ถูกบัณฑิตผู้มีปัญญาติเตียน จึงชื่อว่า เป็นอันติเตียน ผู้อันบัณฑิตสรรเสริญแล้ว ชื่อว่าเป็นอันสรรเสริญ " ดังนี้แล้ว ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ ว่า :-
" อตุละ การนินทาและสรรเสริญนั่น เป็นของ เก่า, นั่นมิใช่เป็นเหมือนมีในวันนี้, ชนทั้งหลาย ย่อมนินทาผู้นั่งนิ่งบ้าง, ย่อมนินทาผู้พูดมากบ้าง, ย่อมนินทาผู้พูดพอประมาณบ้าง.๑ ผู้ไม่ถูกนินทาไม่มี ในโลก คนผู้ถูกนินทาโดยส่วนเดียว หรือว่าอันเขา สรรเสริญโดยส่วนเดียวไม่ได้มีแล้ว จักไม่มี และไม่ มีอยู่ในบัดนี้; หากว่าวิญญูชนใคร่ครวญแล้วทุกๆ วัน สรรเสริญผู้ใด ซึ่งมีความประพฤติไม่ขาดสาย มี ปัญญา ผู้ตั้งมั่นด้วยปัญญาและศีล, ใครเล่าย่อมควร เพื่อติเตียนผู้นั้นผู้เป็นดังแท่งทองชมพูนุท๒, แม้เทว- ดาและมนุษย์ทั้งหลาย ก็สรรเสริญเขา ถึงพรหมก็ สรรเสริญแล้ว. "
ในกาลจบเทศนา อุบาสกเหล่านั้นทั้ง 500 ดำรงอยู่แล้วใน โสตาปัตติผล ดังนี้แล
จบ เรื่องอตุลอุบาสก
สาธุ
ขอความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
หากว่าวิญญูชนใคร่ครวญแล้วทุกๆ วัน สรรเสริญผู้ใด ซึ่งมีความประพฤติไม่ขาดสาย มี
ปัญญา ผู้ตั้งมั่นด้วยปัญญา และศีล ใครเล่าย่อมควร เพื่อติเตียนผู้นั้นผู้เป็นดังแท่งทองชมพูนุท๒, แม้เทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย ก็สรรเสริญเขา ถึงพรหมก็สรรเสริญแล้ว. "
...ขออนุโมทนาค่ะ...