พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ 290
อุบาสกวรรคที่ ๕
๑. กามโภคีสูตร
ว่าด้วยกามโภคีบุคคล ๑๐ จำพวก
[๙๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี
ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังที่ประทับ
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า
กามโภคีบุคคลมีอยู่ในโลก ๑๐ จำพวก ๑๐ จำพวกเป็นไฉน คือ
กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ ๑
กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาทรัพย์โดยไม่ชอบธรรมโดยทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ ๑
กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ ๑
กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม และไม่ชอบธรรม
โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงคนให้เป็นสุข
ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ ๑
กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม
โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ ๑
กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหา โภคทรัพย์โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม
โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข
ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ ๑
กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมโดยไม่ทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ ๑
กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมแสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงคนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ ๑
กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ
แต่เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น จดจ่อ ไม่เห็นโทษ
ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น ๑
กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ
และเป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่จดจ่อ เห็นโทษ
มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น ๑.
* * * * * * * * * * *
พอจะพิจารณาได้มั้ยค่ะว่า ท่านเป็นกามโภคีจำพวกไหน?
โอ้โห...ตอบไม่ยาก ขอสารภาพ... ที่แน่ๆ คือ ดิฉันยังไม่ใช่กามโภคีข้อ 10ส่วนข้ออื่นๆ ก่อนหน้านั้นก็...เอ่อ...ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ พอจะทราบละครับ
อนุโมทนาค่ะ แล้วกามโภคีแต่ละพวกเสวยผลกรรมต่างกันอย่างไรค่ะ
กามโภคีแต่ละพวกย่อมเสวยผลของกรรมต่างกันตามเหตุครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ