ตามพระสูตร //www.84000.org/tipitaka/read/?10/138-140
ขอยกมาบางส่วนคือ
"ดูกรสุภัททะ เราจักแสดงธรรมแก่ท่าน ท่านจงตั้งใจฟังธรรมนั้น จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว สุภัททปริพาชกทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรสุภัททะ ในธรรมวินัยใด ไม่มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ในธรรมวินัยนั้น ไม่มีสมณะที่ ๑ สมณะที่ ๒ สมณะที่ ๓ หรือสมณะที่ ๔ ในธรรมวินัยใด มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ในธรรมวินัยนั้น มีสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ หรือที่ ๔ ดูกรสุภัททะ ในธรรมวินัยนี้ มีอริยมรรคประกอบด้วย องค์ ๘ ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น มีสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ หรือที่ ๔ ลัทธิอื่นๆ ว่างจากสมณะผู้รู้ทั่วถึง ก็ภิกษุเหล่านี้พึงอยู่โดยชอบ โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย ฯ"
คำว่า ก็ภิกษุเหล่านี้พึงอยู่โดยชอบ โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลายฯ
พุทธพจน์นี้ยืนยันได้หรือไม่ว่า ถ้าเจริญอริยมรรคมีองค์แปดอย่างถูกต้อง แม้ในปัจจุบัน โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์ อรรถกถาจารย์ท่านได้อธิบายไว้อย่างไรบ้างครับ
ข้อความในอรรถกถา แสดงว่า พระโสดาบันบอกและแสดงให้ผู้อื่นเป็นพระโสดาบัน ชื่อว่าอยู่โดยชอบ แม้พระอรหันต์บอกฐานะของตนและแสดง ทำให้ผู้อื่นเป็นพระอรหันต์ ชื่อว่าอยู่โดยชอบ นั่นก็คือ โลกไม่พึงว่างเว้นจากพระอรหันต์ ถ้าหากมีพระอรหันต์ในสมัยนั้นและมีการกล่าวแสดงให้ผุ้อื่นบรรลุได้ แต่ ถ้าไม่มีพระอรหันต์ในสมัยนั้น ยุคเสื่อมไป ก็ไม่มีพระอรหันต์ที่จะกล่าวแสดงให้ผู้อื่นเป็นพระอรหันต์ในสมัยนั้น ครับ
นี่คือความละเอียดของพระธรรมและอรรถกถา เพราะฉะนั้นก็ต้องพิจารณาพระธรรมส่วนอื่นด้วย ครับ
ในความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เป็นสังขารธรรม คือ มีปัจจัยปรุงแต่ง จะต้องเกิดขึ้นและดับไป จะต้องมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา แม้แต่พระศาสนาของพระพุทธเจ้าก็ย่อมจะถึงความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ถึงการอันตรธานไปในที่สุด เมื่อครบห้าพันปี ดังนั้น ความเสื่อมไปนั้นก็ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ไม่ใช่จากเจริญแล้วมาเสื่อมอย่างรวดเร็วทันที เพราะฉะนั้นในยุคพันปีแรกก็มีพระอรหันต์ที่ประกอบด้วยคุณธรรมสูง เป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์ มีอภิญญา และประกอบด้วยความแตกฉานในพระธรรมและการบรรลุก็ค่อยๆ เสื่อมไปๆ จนพันปีที่สอง ก็ยังมีพระอรหันต์ แต่เพียงดับกิเลสเป็นสุขวิปัสสกะ แต่ไม่ถึงพร้อมด้วยคุณธรรม ที่เป็นการแสดงฤทธิ์ได้ ได้อภิญญาปฏิสัมภิทา ครับ
นี่แสดงให้เห็นถึงความค่อยๆ เสื่อมไปตามลำดับ แต่เมื่อถึงพันปีที่ 3 ก็หมดความเป็นพระอรหันต์ในโลกมนุษย์ มีได้เพียงพระอนาคามี พันปีที่ 4 ก็สูงสุดเพียง พระสกทาคามี และพันปีที่ห้า พันปีสุดท้าย ก็ได้เพียงพระโสดาบัน นี่แสดงความจริงที่เป็นสัจจะ ว่าพระพุทธศาสนา ค่อยๆ เสื่อมไปอย่างช้าๆ ตามลำดับ ไม่ใช่ว่าพอพันปีที่สาม ที่สี่ ที่ห้ายังมีพระอรหันต์ แล้วก็หมดทันที่ ไม่มีพระอริยบุคคลในหมดพันปีที่ห้าเลย แต่การเสื่อมคุณธรรมก็ต้องเสื่อมไปตามลำดับ ตามระดับของพระอริยบุคคล ครับ
เช่นเดียวกับการเสื่อมของความเข้าใจพระธรรม พันปีแรกมีผู้ที่เข้าใจพระธรรมอย่างละเอียดลึกซึ้ง และพันปีที่สองก็ค่อยๆ เข้าใจละเอียดลึกซึ้งอยู่แต่ไม่มากเท่าพันปีแรก พันปีที่ 3 ก็เข้าใจน้อยลงตามลำดับ จนถึงพันปีที่ 4 พันปีที่ 5 ก็เสื่อมถอยในความเข้าใจพระธรรม จนในที่สุด แม้ได้อ่าน ได้ยิน มีพระไตรปิฎกเต็มตู้ แต่อ่านก็ไม่เข้าใจเลย หรือเข้าใจผิด และ ไม่สนใจก็ได้ อันแสดงถึงความอันตรธานของความเข้าใจไปตามลำดับที่ค่อยๆ เสื่อมไป จึงไม่ใช่ว่า พันปีที่ 3 ยังมีความเข้าใจลึกซึ้งเท่ากับพันปีที่ 1 แล้ว ก็พอพันปีที่ 4 และ 5 ก็หายไปทันที คือ หายจากความเข้าใจลึกซึ้งทันทีโดยที่ไม่ค่อยเสื่อมก็ไม่ถูกต้องครับ เช่นเดียวกับ การบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคลก็ค่อยๆ เสื่อมไป จนพันปีที่ 3 สูงสุดก็เพียงพระอนาคามี ครับ นี่คือเหตุผลของพระธรรมและเป็นสัจจะ ครับ ดั่งข้อความในพระไตรปิฎกที่แสดงถึง เรื่อง ยุคสมัยที่จะมีพระอริยบุคคลแบบใด ครับ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ หน้าที่ 554
ข้อความบางตอนจาก อรรถกถาโคตมีสูตร
ก็คำว่า วสฺสสหสฺส นี้ ตรัสโดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้บรรลุปฏิสัมภิทาเท่านั้น แต่เมื่อกล่าวให้ยิ่งไปกว่านั้น ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระขีณาสพผู้สุกขวิปัสสก ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระอนาคามี ๑,๐๐๐ โดยมุ่งถึงพระสกทาคามี ๑,๐๐๐ ปี โดยมุ่งถึงพระโสดาบันปฏิเวธสัทธรรมถูกดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปี โดยอาการดังกล่าวมานี้แม้พระปริยัติธรรมก็ดำรงอยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีนั้นเหมือนกัน. เพราะเมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมก็มีไม่ได้ แม้เมื่อปริยัติธรรมไม่มี ปฏิเวธธรรมไม่มี ก็เมื่อปริยัติธรรมแม้อันตรธานไปแล้วเพศ (แห่งบรรพชิต) ก็จักแปรเป็นอย่างอื่นไปแล.
[เล่มที่ 9] พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ 499
แต่คำว่า พันปี นั้น พระองค์ตรัสด้วยอำนาจพระขีณาสพผู้ถึงความแตกฉานในปฏิสัมภิทาเท่านั้น. แต่เมื่อจะตั้งอยู่ยิ่งกว่าพันปีนั้นบ้าง จักตั้งอยู่สิ้นพันปี ด้วยอำนาจแห่งพระขีณาสพสุกขวิปัสสกะ, จักตั้งอยู่สิ้นพันปี ด้วยอำนาจแห่งพระอนาคามี, จักตั้งอยู่สิ้นพันปี ด้วยอำนาจแห่งพระสกทาคามี,จักตั้งอยู่สิ้นพันปี ด้วยอำนาจพระโสดาบัน, รวมความว่า พระปฏิเวธสัทธรรมจักตั้งอยู่ตลอดห้าพันปี ด้วยประการฉะนี้.
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระอรหันต์ เป็นผู้ที่ห่างไกลจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง เป็นผู้ทำลายข้าศึก คือกิเลสได้หมดสิ้น เป็นผู้ไม่มีภพใหม่อีกต่อไป การบรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ เริ่มตั้งแต่พระโสดาบันบุคคล ถึง ความเป็นพระอรหันต์นั้น ต้องเป็นผู้ที่สั่งสมอบรมเจริญปัญญา สั่งสมการสดับตรับฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ มาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน และต้องเป็นผู้ดำเนินตามทางที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้ คือ การอบรมเจริญปัญญา
ยุคนี้สมัย นี้ ไม่มีพระอรหันต์ ก็คือ ไม่มี
มรดกที่ล้ำค่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานแก่พุทธบริษัท คือ พระธรรมคำสอน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง
ตามความเป็นจริงแล้ว ยุคสมัยนี้ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงยังดำรงอยู่ พระธรรม ยังสมบูรณ์ถูกต้องครบถ้วน แต่ปัญญาของผู้ศึกษาเข้าไม่ถึงอรรถ เข้าไม่ถึงธรรม เพราะผู้ที่บำเพ็ญบารมีมาเพื่อเป็นพระอรหันต์ ท่านเกิดในสมัยครั้งพุทธกาลเป็นส่วนมาก ยุคปัจจุบันนี้เป็นของคนมีบุญน้อยการศึกษาอบรมเจริญปัญญาสามารถบรรลุคุณธรรมสูงสุด เพียงพระอนาคามีบุคคลเท่านั้น ประโยชน์จริงๆ ควรที่จะได้พิจารณาว่า หนทางที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม คือ อะไร นี้คือ ความสำคัญ ถ้าตั้งต้นไม่ถูก ไม่ได้อบรมเจริญเหตุ คือ การอบรมเจริญปัญญาแล้ว ไม่มีทางถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้
และที่ไม่ควรลืมอย่างยิ่ง คือ กิจของตนเอง นั่นก็คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ให้เข้าใจ และไม่ประมาทในการสะสมกุศล ต่อไป ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กิจของตนคือการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพื่อความเข้าใจต่อไป สาธุๆ ๆ
แม้ว่าขณะนี้ได้เกิดในสมัยที่ยังมีพระพุทธศาสนาให้ศึกษา แต่ก็ห่างจากสมัยพุทธกาลกว่า 2600 ปี จึงไม่ควรประมาทอย่างยิ่งเพราะบุญที่สะสมน้อยกว่าบุคคลในครั้งนั้น ที่ได้เฝ้า ได้ฟังพระธรรมโดยตรงจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย
เหตุนี้ กิจที่ควรทำขณะนี้ คือสะสมความเข้าใจความจริงจากพระธรรมที่ยังมีให้ศึกษาอย่างบริบูรณ์ และมีผู้ที่เข้าใจโดยละเอียดเกื้อกูลอนุเคราะห์ด้วยความกรุณายิ่ง เพราะหากประมาทในวันเวลาขณะนี้ เดี๋ยวนี้ ก็จะยิ่งห่างไกลจากความเป็นผู้มีบุญอันสั่งสมในปางก่อน เมื่อหมดเวลาของการได้พบพระธรรม
กราบอนุโมทนาท่านผู้ถาม ผู้ตอบ และทุกท่านที่ได้ศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพและอดทนด้วยค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ถ้าเจริญอริยมรรคมีองค์แปดอย่างถูกต้อง แม้ในปัจจุบัน โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์ ข้อความนี้ถูกต้องค่ะ แต่ยกเว้นในภูมิมนุษย์เพราะผ่านมาแล้วสองพันกว่าปี แต่ในโลกสวรรค์ยังมีพระอรหันต์ค่ะ
ขออนุโมทนาครับ