เช่นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี เมื่อได้อรูปฌาน จะเกิดเป็นอรูปพรหมได้หรือไม่
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระอริยเจ้า ทั้งหลายผู้ที่สะสมอุปนิสัย คือ การเจริญฌาน เจริญสมถภาวนา สามารถที่จะได้ฌาน ได้ และ ถ้าฌานไม่เสื่ิิิอมก็สามารถเกิดเป็นรูปพรหม และ อรูปพรหมได้ พระอริยเจ้าที่เป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี และ พระอนาคามี ก็สามารถอบรมสมถภาวนา จนได้ฌาน ขั้นอรูปฌาน ได้ และ เมื่อฌานไม่เสื่อมก็ไปเกิดในพรหมโลกชั้นอรูปพรหม ซึ่ง แม้จะไม่มีรูปเลย ในภพภูมินี้ แต่ก็ยังมี จิต เจตสิกเกิดขึ้นได้ และเมื่อท่านเป็นพระอริยเจ้า ทราบหนทางการบรรลุแล้ว ก็สามารถอบรมปัญญา เกิดสติและปัญญาได้ ที่เป็นจิต เจตสิกเกิดขึ้นได้ แม้ไม่มีรูปก็เจริญปัญญา จนในที่สุดก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ และ ปรินิพพานในอรูปพรหมภูมิได้ ครับ
จึงสามารถกล่าวสรุปได้ว่า พระอริยเจ้าทั้งหลาย มี พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี สามารถเกิดในอรูปพรหมภูมิได้ เพราะ ได้เจริญอรูปฌาน และ สามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในอรูปพรหมภูมิได้ ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทั้งหมดที่กล่าวถึงนั้น ล้วนเป็นความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมที่มีจริง เมื่อเหตุมี ผลก็ต้องมี จิตที่กระทำกิจปฏิสนธิในภพใหม่ชาติใหม่สำหรับผู้ที่มีฌานไม่เสื่อม ก็ต้องเป็นรูปฌานวิบาก หรือ อรูปฌานวิบาก ตามระดับขั้นของฌานที่ท่านได้ ดังนั้น ถ้ายังไม่ใช่พระอรหันต์แล้วก็ต้องมีการเกิดในภพใหม่ ซึ่งถ้าเป็นพระอริยบุคคล (พระโสดาบัน ถึง พระอนาคามี) ที่ได้ฌาน ก็เป็นเหตุให้ท่านเกิดในพรหมภูมิ ที่เป็นรูปพรหมภูมิ กับอรูปพรหมภูมิตามระดับขั้นของฌานที่ท่านได้ ซึ่งถ้าจะเกิดในอรูปพรหมภูมิ ก็ต้องเป็นผลของการอบรมเจริญอรูปฌาน นั่นเอง พระอริยบุคคล ท่านมั่นคงในหนทางที่ถูกต้อง คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ แล้ว ก็จะต้องมีการอบรมเจริญปัญญาต่อไป จนกว่าจะถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมบรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
พระอริยบุคคล สามารถเจริญฌาน เกิดในพรหมโลกได้ หากท่านสะสมมาในการเจริญสมถภาวนา ค่ะ
กราบอนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ไม่ทราบว่าวิทยากรมีหลักฐานหรือไม่ ที่กล่าวว่า มีพระอริยบุคคลอยู่ที่อรูปพรหม เพราะเท่าที่ทราบ เช่น ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี และนางวิสาขามิคารมารดา เป็นพระโสดาบันที่ติดในภพอย่างมาก จะปรินิพพานที่อกนิฏฐาภูมิ อันเป็นชั้นสูงสุดของรูปพรหมสุทธาวาส ซึ่งเป็นที่อยู่ของพระอนาคามีผู้ได้ปัญจมฌาน ก็คงเป็นเพียงความคิดตามหลักการเท่านั้นกระมัง..?
เรียน ความเห็นที่ 7 ครับ
[เล่มที่ 16] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 360
ข้อว่า สญฺโชนานิ ได้แก่ เครื่องผูกมัด ก็บรรดาบุคคลที่ถูกสัญโยชน์เหล่านั้นผูกไว้ พระโสดาบัน และพระสกทาคามี ซึ่งเกิดในรูปภพและอรูปภพ ชื่อว่า นอนแล้วในภายนอกจากเครื่องผูกในภายใน จริงอยู่พระโสดาบันและพระสกทาคามีเหล่านั้น ยังมีเครื่องผูกมัดไว้ในกามภพ พระอนาคามี ชื่อว่า นอนในภายในจากเครื่องผูกในภายนอก ในกามภพ จริงอยู่ สำหรับพระอนาคามีเหล่านั้น ยังมีเครื่องผูกมัดไว้ในรูปภพ และอรูปภพ พระโสดาบัน และพระสกทาคามี ชื่อว่านอนในภายในจากเครื่องผูกในภายใน ในกามภพ พระอนาคามี ชื่อว่า นอนในภายนอกจากเครื่องผูกในภายนอก ในรูปภพ และอรูปภพ พระขีณาสพ ไม่มีเครื่องมัดไว้ในทุกๆ ภพ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
พระไตรปิฎก
ฟังธรรม
วีดีโอ
ซีดี
หนังสือ
กระดานสนทนา
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)
กราบอนุโมทนาท่านวิทยากรที่ให้ความสว่างกระจ่างแจ้ง.. สาธุ