พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๖๘ - หน้าที่ ๕๓๔
อนึ่ง พึงทราบสัจจะเหล่านี้ทั้งหมดโดยปรมัตถ์ว่า สูญ เพราะ ไม่มีผู้เสวย ไม่มีผู้ทำ ไม่มีผู้ดับ และไม่มีผู้ไป. ด้วยเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า
ทุกฺขเมว หิ นโกจิ ทุกฺขิโต การโก น กิริยาว วิชฺชติ อตฺถิ นิพพุติ น นิพพุโต ปุมา มคฺคมตฺถิ คมโก น วิชฺชติ
ความจริงทุกข์เท่านั้นมีอยู่ แต่ไม่มีใครๆ ถึงทุกข์ กิริยาคือการทำมีอยู่ แต่ผู้ทำไม่มี ความดับมีอยู่ แต่คนดับ ไม่มี ทางมีอยู่ แต่ผู้เดินไม่มี
ขอความกรุณาอธิบายเพื่อความเข้าใจด้วยค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ทุกข์เท่านั้นมีอยู่ ทุกข์ในที่นี้ หมายถึง สภาพธรรมทีเกิดขั้นและดับไปที่เป็นสังขาร ธรรมคือ จิต เจตสิก รูป ดังนั้นจึงไม่มีใคร ไม่มีเราที่มีอยู่ ไม่มีสัตว์ บุคคลที่มีอยู่ แต่มี เพียง จิต เจตสิก รูป และไม่มีใครทุกข์ คือ ไม่มีใครได้รับทุกข์ เพราะในความเป็นจริง ทุกขกายวิญญานจิต คือ จิตที่รู้กระทบสัมผัสทางกายที่ไม่ดีเกิดขึ้น ไม่มีเราที่ได้รับ ทุกข์ และแม้ความทุกข์ใจ ก็ไม่มีเรา ไม่มีใครที่ทุกข์ เพราะเป็นเพียงสภาพธรรมที่เป็น โทมนัสเวทนาที่เกิดขึ้นครับ
กิริยาการทำมีอยู่ แต่ผู้ทำไม่มี หมายถึง การกระทำกุศลกรรม หรือ อกุศลกรรมมีอยู่ ซึ่งเป็นจิตที่เป็นกุศล หรือ อกุศลเกิดทำหน้าที่ครับ จึงเป็นกิริยาการทำมีอยู่ แต่เมื่อเป็น จิตที่เป็นกุศล อกุศลเกิด ผู้ทำจึงไม่มี เพราะไม่มีสัตว์ บุคคลทำนั่นเองครับ
ความดับมีอยู่ แต่คนดับไม่มี หมายถึง ความดับ คือ พระนิพพาน มีอยู่ แต่ไม่มีสัตว์ บุคคลที่ดับ เมื่อถึงพระนิพพานดับ จิต เจตสิก รูป ไม่ได้ดับความเป็นสัตว์ บุคคลนั่นเอง
ทางมีอยู่ แต่ผู้เดินไม่มี หมายถึง ทางคือ อริยมรรคมีองค์ 8 ที่จะทำให้ถึงการดับทุกข์ ดับกิเลสได้ มีอยู่ แต่ผู้เดิน คือ สัตว์ บุคคลที่จะปฏิบัติไม่มี ไม่มีเราทำอริยมรรค แต่เมื่อมี การอบรมปัญญา จากการฟังพระธรรม ปัญญาเกิด รู้ความจริงในขณะนี้ ที่เป็นอริยมรรค ขณะนั้นเป็นสภาพธรรมที่เป็นสติและปัญญาเกิดทำหน้าที่ ไม่มีเราที่ทำ ไม่มีเราที่เจริญ อริยมรรค จึงไม่มีเราเป็นผู้เดิน แต่เป็นสภาพธรรมทีเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ รู้ความจริงที่ เป็นอริยมรรคมีองค์ 8 ครับ เพราะฉะนั้น คำว่า
ความจริง ทุกข์เท่านั้นมีอยู่ แต่ไม่มีใครๆ ถึงทุกข์, กิริยาคือการทำมีอยู่ แต่ผู้ทำ ไม่มี, ความดับมีอยู่ แต่คนดับ ไม่มี, ทางมีอยู่ แต่ผู้เดินไม่มี
จึงเป็นการแสดงถึงความจริงที่เป็นอริยสัจ 4 ว่า มีแต่สภาพธรรมที่ทำหน้าที่ ธรรมเท่า นั้นที่เป็นทุกข์ ธรรมที่ทำกรรม ไม่มีผู้กระทำกรรม ธรรมเท่านั้นที่ดับ ไม่มีสัตว์ บุคคลดับ และธรรมเท่านั้นที่ทำหน้าที่เจริญหนทางดับกิเลส ไม่มีเราไม่มีสัตว์บุคคลอบรมปัญญา ดับกิเลส เดินตามทางครับ
ความจริงที่เป็นอริยสัจ 4 ว่าเป็นของว่างเปล่า สูญ จากความเป็นสัตว์ บุคคล เพราะมีแต่ธรรม ครับ
ขออนุโมทนา
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเ้จ้าพระองค์นั้น
เมื่อกล่าวถึง ธรรม แล้ว ต้องเป็นสิ่งที่มีจริง แต่ละอย่างๆ เท่านั้น ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน หรือ สิ่งหนึ่งสิ่งใด เลย ธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริง นั้น ย่อม ไม่พ้นไปจากสิ่งที่มีจริง ๔ อย่าง คือ จิต (สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์) เจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดพร้อมร่วมกับจิต) รูป (สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร) และ พระนิพพาน (สภาพนามธรรมที่ไม่ใช่จิต ไม่ใช่เจตสิก แต่เป็นนามธรรมที่ไม่รู้อารมณ์ เป็นโลกุตตรธรรมที่ไม่มีการเกิดดับ) สิ่งที่มีจริง ๔ อย่างเหล่านี้ ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน แต่เป็นสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ที่ว่างเปล่าจากความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน อย่างแท้จริง ไม่มีสัตว์ที่เป็นทุกข์ ไม่มี-สัตว์ที่กระทำกรรม ไม่มีคนที่ดับทุกข์ดับกิเลส ไม่มีคนที่อบรมเจริญมรรคมีองค์ ๘ มีแต่ธรรม เท่านั้นจริงๆ ครับ
..ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสอง และทุกๆ ท่านค่ะ
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
อาจารย์ทั้งสองมีความเมตตาและตั้งใจให้ผู้ถามได้เข้าใจ ซาบซึ้งในความเมตตามากค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
14 กันยายน 54 (21.08)
ขอชื่นชมในคำตอบ และขออนุโมทนาในกุศลจิตครับ
ขออนุโมทนาครับ