คำอธิบายข้างล่างมีมาในพระไตรปิฎกหรือไม่ครับ...
...การสิ้นชีพด้วยการน้อมจิตตกลงใจ; การเกิดอยู่ในภพสูงๆ อย่างบรรดาเทวโลก ซึ่งมีอายุยืนยาวมาก ทำให้ชักช้าเสียโอกาสในการบำเพ็ญบารมี พระโพธิสัตว์ที่เกิดอยู่ในภพอย่างนั้น เมื่อไม่ประสงค์จะรอเวลาจนสิ้นอายุ ก็สามารถน้อมจิตปลงใจสิ้นชีพ หรือตั้งจิตจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป ซึ่งสำเร็จได้ในบัดนั้นชั่วเวลาหลับตากะพริบตา แล้วเกิดในมนุษยโลกเพื่อบำเพ็ญบารมีต่อไป อย่างนี้เรียกว่าอธิมุตติกาลกิริยา ซึ่งพระโพธิสัตว์เท่านั้นทำได้ บรรดาเทพ อื่นทั้งปวงไม่อาจทำได้ เพราะไม่เป็นวสี (ผู้มีอำนาจ) ในจิต และในกรรม อย่างพระโพธิสัตว์ (อธิมุตตกาลกิริยา ก็เรียก)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อธิมุตติกาลกิริยา ตามที่ท่านผู้รู้ได้ให้ความหมายไว้ หมายถึง การกลั้นใจตาย ข้อความโดยตรง มีดังนี้
[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ ๔๙
บทว่า ยาวตายุก ถามว่า ในอัตภาพที่เหลือ พระโพธิสัตว์ ไม่ดำรงอยู่จนตลอดอายุหรือ. ตอบว่า ใช่แล้วไม่ดำรงอยู่ตลอดอายุ. ก็ใน กาลอื่นๆ พระโพธิสัตว์บังเกิดในเทวโลก ที่เทวดามีอายุยืน ไม่อาจบำเพ็ญ บารมีในเทวโลกนั้นได้ ฉะนั้น พระองค์ทรงลืมพระเนตรทั้งสอง กระทำ อธิมุตตกาลกิริยา (กลั้นใจตาย) แล้วบังเกิดในมนุษยโลก กาลกิริยาอย่างนี้ไม่มี แก่เทวดาเหล่าอื่น
[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ ๔๙
ก็ในกาลอื่น พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ทรงอุบัติในเทวโลกที่สัตว์มีอายุยืน (พรหมโลก เป็นต้น) ย่อมไม่ดำรงอยู่ตราบเท่าอายุนั้น เพราะเหตุไร เพราะทำบารมีให้เต็มได้ ยากในที่นั้น พระโพธิสัตว์เหล่านั้น กระทำอธิมุตตกาลกิริยา จึงบังเกิดในถิ่นของ มนุษย์นั้น
ทั้งสองข้อความ แสดงถึงความเป็นจริงของพระโพธิสัตว์ จะไม่ดำรงอยู่ตราบเท่าอายุ ในชาติที่เกิดเป็นเทวดา หรือ พรหมที่มีอายุยืน เพื่อที่จะได้มาเกิดในภพภูมิมนุษย์ สะสมอบรมเจริญบารมีต่อไป ครับ
...ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ...
สาธุอนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา
กราบอนุโมทนา ในกุศลจิตที่ดีงามของทุกๆ ท่าน ด้วยเจ้าค่ะ
แจ่มแจ้ง และอธิบายได้ดีมาก สาธุครับกับธรรมะดีๆ ครับผม
กราบขอบพระคุณยิ่งค่ะ