สอบถามข้อสงสัยค่ะ จากที่ได้ฟังคลิบของทางบ้านธัมมะ มีความเข้าใจเรื่องของพระภิกษุในพระธรรมวินัย ไม่ยินดีในเงินและทอง เข้าใจว่า พระภิกษุรับเงินไม่ได้เลย แม้เพียงการรับและนำไปใช้เพื่อส่วนรวม หรือในสิ่งสาธารณกุศลใดใดก็ตาม แต่มีโอกาสได้สนทนากับเพื่อนท่านนึง ที่ท่านนำเงินกฐินไปถวายพระ (ดัง) เพื่อนท่านนี้กล่าวว่า "พระท่านมองเห็นเงินเป็นแค่กระดาษเท่านั้น" และโดยส่วนตัวของเพื่อนท่านนี้ ท่านกล่าวว่า ท่านเองก็เคยนำธนบัตรมาตัดเป็นชิ้นๆ เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมของวัตถุมงคล เช่นนี้แล้ว ถือว่า เจตนาของการรับเงินเป็นกุศลหรือไม่ค่ะ โดยส่วนตัวก็ยังเชื่อว่า รับไม่ได้แม้แต่จะนำไปใช้ทำกุศลใดใด
กราบขอบพระคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
[เล่มที่ 3] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค-ทุติยภาค เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๙๔๐
พระบัญญัติ
ภิกษุใด รับ ก็ดี ให้รับ ก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือ ยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์
พระภิกษุในพระธรรมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง โดยประการทั้งปวง เป็นผู้ปราศจากเงินและทองอย่างสิ้นเชิง เพราะท่านเหล่านั้น ต้องสละทรัพย์สินเงินทองก่อนบวชแล้ว ดังนั้น เมื่อบวชเป็นพระภิกษุแล้ว จึงรับเงินและทองไม่ได้ เงินทองไม่ควรแก่เพศบรรพชิตโดยประการทั้งปวง ไม่มีพระพุทธดำรัสแม้แต่คำเดียวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสให้พระภิกษุรับเงินและทองหรือไปแสวงหาเงินและทอง ตามข้อความจาก พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ มณิจูฬกสูตร ว่า
“ทองและเงินไม่ควรแก่สมณศากยบุตร สมณศากยบุตรย่อมไม่ยินดีทองและเงิน สมณศากยบุตร ห้ามแก้วและทอง ปราศจากทองและเงิน ... เรามิได้กล่าวว่า สมณศากยบุตรพึงยินดี พึงแสวงหาทองและเงินโดยปริยายอะไรเลย”
การรับเงินของพระภิกษุ ไม่ว่าจะรับด้วยจุดประสงค์ใด คือ ผิดพระวินัย ทั้งหมด
พระภิกษุ ไม่ได้บวชมาเพื่อรับเงิน ไม่ได้บวชมาเพื่อทำวัตถุมงคลมอมเมาประชาชน ฯลฯ แต่เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเอง มีความประพฤติคล้อยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ...
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
พระภิกษุที่รับธนบัตรอาบัติตั้งแต่รับแล้ว แล้วยังอาบัติเพิ่มอีกมาทำเป็นส่วนผสมของวัตถุมงคล ในพระไตรปิฏกหน้าที่ของพระภิกษุมี ๒ อย่างคือ วิปัสสนาธุระ และ คันถธุระ
ขออนุโมทนาครับ