โดยนัยพระสูตรความสงสัยมีลักษณะอย่างนี้คือ
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 140 ปุถุชนนั้นมนสิการโดยไม่แยบคายอย่างนี้ว่า เราได้มีแล้วในอดีต- กาลอันยืดยาวนาน หรือหนอ หรือเราไม่ได้มีแล้วในอดีตกาลอันยืดยาว นาน ในอดีตกาลอันยืดยาวนาน เราได้เป็นอะไรหนอ ในอดีตกาลอันยืดยาวนาน เราได้เป็นอย่างไรหนอ ในอดีตกาลอันยืดยาวนาน เราได้เป็นอะไรแล้วจึงเป็นอะไรหนอ ในอนาคตกาลอันยืดยาวนาน เราจักเป็นหรือหนอ ในอนาคตกาลอันยืดยาวหาน เราจักไม่เป็น ในอนาคตกาลอันยืดยาวนาน เราจักเป็นอะไรหนอ ในอนาคตกาลอันยืดยาวนาน เราจักเป็นอย่างไรหนอ ในอนาคตกาลอันยืดยาวนาน เราจักเป็นอะไรแล้วจึงจักเป็นอะไรหนอ หรือว่า ปรารภกาลปัจจุบันอันยืดยาวนาน ในบัดนี้ มีความสงสัยขึ้นภายในว่า เรามีอยู่หรือ หรือเราไม่มี เราเป็นอะไรหนอเราเป็นอย่างไรหนอ สัตว์นี้มาแต่ไหนหนอ และจักไปไหน?
พระโสดาบันละความเห็นผิด ละวิจิกิจฉา ละข้อปฏิบัติที่ผิดค่ะ
วิจิกิจฉามี ๘ ประการ คือ
สงสัยในพระพุทธเจ้า ๑
สงสัยในพระธรรม ๑ สงสัยในพระสงฆ์ ๑
สงสัยในสิกขา ๑
สงสัยในขันธ์ที่เป็นอดีต ๑
สงสัยในขันธ์ที่เป็นอนาคต ๑
สงสัยในขันธ์ที่เป็นอดีตและอนาคต ๑
สงสัยในปฏิจจสมุปบาท ๑
พระโสดาบันเป็นผู้ที่มีศีล 5 บริบูรณ์ มีความมั่นคงในพระรัตนตรัย ละอคติได้ทั้งหมด
ละความริษยา ละความตระหนี่ได้ค่ะ
สาธุ
ขอบพระคุณ ทุกท่านที่ช่วยให้ความเข้าใจ