คือ ว่าผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งเขาเป็นคนดี แต่ว่าเขาเคยทำผิดและเขาก็เสียใจ แต่ตอนนี้เขาก็ยังเป็นคนดีอยู่ แต่กลัวว่าเขาจะคิดมากเพราะช่วงนี้เขาไม่ค่อยพูดครับ อยากให้ท่านกัลยาณมิตรทั้งหลายช่วยหาทางช่วยผมด้วย และช่วยแนะนำหลักธรรมในการช่วยให้คนที่เคยทำผิดกลับมากล้าหาญที่จะทำความดีต่อไปด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การฟังพระธรรมเพื่อเข้าใจความจริงในสิ่งทีเกิดขึ้น ย่อมอุปการะเกื้อกูล เมื่อปัญญาเกิด กุศลหรือความดีประการต่างๆ ย่อมเจริญตาม ดังนั้น ควรเริ่มจากการฟังพระธรรม โดยให้เกิดความเห็นถูก ไม่ใช่เรื่องบังคับที่จะให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่อาศัยเหตุที่ถูกต้องครับ คือเมื่อความเห็นถูกหรือปัญญาเกิดจากการฟังพระธรรม โดยเฉพาะในเรื่องเข้าใจความจริงว่าเป็นธรรม เมื่อกล่าวว่าเป็นธรรม ธรรมเป็นอนัตตา สิ่งที่เกิดขึ้นที่ทำให้เสียใจ เกิดดับไปนานแล้ว เพียงแต่คิดทรงจำในเรื่องราวที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของปัญญาและเป็นไปตามลำดับ ไม่ใช่ยาที่ทานแล้วหายโรคนั้นทันที (หายเสียใจ) แต่ค่อยๆ หายด้วยความเข้าใจถูกว่าเป็นธรรม โดยเริ่มจากการฟังให้เข้าใจก่อนครับว่า ธรรมคือ อะไร อาจหาญ ร่าเริงเพราะเข้าใจว่าเป็นธรรม แม้สิ่งที่เกิดขึ้นและความเสียใจ ธรรมไม่ใช่เรื่องด่วน แต่ค่อยๆ เข้าใจ
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
ทุกข์เพราะความไม่รู้ ทุกข์เพราะความคิด
เชิญคลิกฟังที่นี่ครับ
ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่ทุกข์ ไม่มีใครทำให้สุขทุกข์
เราอยู่ในโลกของความคิดนึกตลอด
ไม่ต้องไปพยายามทำ แต่ฟังให้เข้าใจ
ความทุกข์ทั้งหลายมาจากอกุศล
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
การคิดอยู่แต่ในความไม่ดีของตนเองด้วยความเสียใจ เป็นความเศร้าหมอง เป็นอกุศลจิต เกิดกับใครก็คงสภาพอย่างนั้น จะไม่เปลี่ยนเป็นสภาพที่ดีใจหรือเฉยๆ ได้เลย ขณะที่คิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ทำให้เสียใจ ขณะนั้นมีแต่เพียงจิตที่คิดด้วยอกุศลเพียงเพราะเคยจำได้เท่านั้น ไม่ได้มีสิ่งนั้นกลับมาให้ได้เห็น ให้ได้ยินจริงๆ ซึ่งถ้าไม่เคยจำได้ ก็จะไม่ครุ่นคิด หมกมุ่นอยู่แต่ในเรื่องนั้นๆ แต่เพราะจำได้ และมีปัจจัยให้คิดเกิด คิดก็เกิดบังคับไม่ให้คิด ก็เป็นไปไม่ได้ แต่เริ่มศึกษาพระธรรมให้เข้าใจความจริงของชีวิตตนเองได้ ว่าที่เคยเสียใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ คำตอบก็คือเพราะต้องเป็นอย่างนี้ จะไม่เป็นอย่างอื่นไปได้ เพราะถ้าจะเป็นอย่างอื่น ที่กำลังเป็นอย่างนี้ก็ต้องแปรเปลี่ยนไป จะไม่มีอะไรก็ตามที่เที่ยง ที่จะกลับหมุนมาเป็นการเห็น การได้ยิน การคิดขณะเดิมได้อีกตลอดไป สิ่งใดที่แล้วไปแล้วจะไม่มีทางกลับไปแก้ไขได้อีก แต่สิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ต่างหากที่ควรจะแก้ ความดีเป็นสิ่งที่ดี ถ้าไม่มีความดี บัญญัติว่าเป็นคนดีจะไม่มี จึงไม่ควรติดในความเป็นคนดีของตน แต่ควรอบรมเจริญความเข้าใจในความดีเพื่อขัดเกลา และละคลายอกุศลตามลำดับขั้น จนกว่าจะไม่ติดแม้ในความดีของตนครับ เพราะขณะที่ติด ขณะนั้นเป็นอกุศลจิตเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้เสียใจเวลาที่ไม่อาจจะรักษาความดีที่ตนติดและยึดถือไว้ได้ครับ
ขอเสริมความเห็นที่ ๑ นะคะการศึกษาพระธรรมเป็นการรักษาความทุกข์ที่ต้นเหตุแต่พระธรรมก็ไม่สาธารณะ หมายถึงถ้าผู้ฟังสั่งสมบุญมาที่ศึกษาย่อมได้ที่พึ่งที่แท้จริง ในขณะที่จิตใจไม่สงบอกุศลมีกำลังมากจะไปบอกให้วางเฉยหรือปลงเสีย ไม่ใช่จะบังคับบัญชาได้ ความคิดที่เป็นอกุศลมีผลโดยตรงต่อร่างกายหากถึงขั้นไม่พูด ไม่กิน ไม่นอนหรือเก็บตัวอาจมีโรคอื่นๆ เช่น โรคซึมเศร้า ซึ่งหากไม่รักษาให้ถูกทางอาจถึงขั้นฆ่าตัวตายได้การรักษาตามอาการโดยปรึกษาแพทย์ ทานยา เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงร่วมกับการดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยความเมตตา ไม่ถือสาไม่รังเกียจ
เมื่ออาการทางกายดีขึ้น ย่อมเกื้อกูลให้จิตใจสงบลงมีความพร้อมที่จะฟังหากคุณเห็นคุณค่าของพระธรรมด้วยการศึกษาของคุณเอง คุณสามารถแบ่งปันความรู้ให้เพื่อนได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปเพราะพระธรรมรักษาโรคที่ต้นเหตุ หากเข้าใจก็เหมือนภูมิคุ้มกัน ยิ่งเข้าใจมาก มีความเห็นถูกมาก ยิ่งมีภูมิคุ้มกัน (อกุศล) มากแต่ความเข้าใจพระธรรมไม่เหมือนยาแก้ปวดที่จะหายทันใจการรักษาร่างกายให้แข็งแรงก่อนก็จำเป็นค่ะ.
ขออนุโมทนาที่คุณหวังดีต่อเพื่อนนะคะ
เพิ่งเห็นความคิดเห็นที่ ๒ ค่ะดิฉันขอแก้ไข บรรทัดแรกนะคะ...ว่าขอเสริมความดิดเห็นที่ ๑ และ ๒
อนุโมทนาครูโอค่ะ
ลองคลิกอ่านเรื่องของธรรมะ โดย สารธรรม
เกิด แก่ เจ็บ ตาย...๐๖ ลูกศรดอกที่ ๑ และ ๒
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยตอบครับ
ไม่มีปุถุชนใดในโลกที่ที่ทำดีทำถูกทุกเรื่อง.สิ่งที่ทำไปแล้วไม่อาจจะเรียกคืนเพื่อทำใหม่ พระธรรมสอนให้พิจารณาเฉพาะปัจจุบัน ถ้าคิดแต่การกระทำที่ไม่ดีในอดีตจิตก็เป็นอกุศล ไม่เป็นประโยชน์เริ่มต้นใหม่เพื่อสิ่งที่ดีจะดีกว่า
ทุกคนเกิดมาไม่มีใครไม่เคยทำผิด แต่ผิดแล้วแก้ไขเป็นคนดี สิ่งใดที่ผ่านไปแล้วก็แล้วไป เริ่มต้นใหม่ ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเป็นคนดีและทำความดีค่ะ ส่วนใหญ่เรามักจะทุกข์ใจในเรื่องของอดีตและอนาคต ควรแนะนำให้เขาฟังธรรมะ เพราะอาศัยการฟังธรรมทำให้ปัญญาเกิดความทุกข์ก็ลดลงค่ะ
ทุกคนเกิดมาไม่มีใครไม่เคยทำผิด แต่ผิดแล้วแก้ไขเป็นคนดี สิ่งใดที่ผ่านไปแล้วก็แล้วไป เริ่มต้นใหม่ ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเป็นคนดีและทำความดีค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ไม่มีคำว่าสายสำหรับการทำความดี ซึ่งสามารถที่จะเริ่มได้ สิ่งที่เป็นอกุศลที่เคยเกิดขึ้นเป็นไป ก็ผ่านไปแล้ว พึงเป็นผู้ที่เห็นโทษของอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย ขณะนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะสั่งสมเหตุที่ดีใหม่ ครับ
สิ่งที่ทำผิดไปแล้ว จะมานั่งเสียใจทุกข์ใจนั้นเป็นอกุศล พระพุทธองค์ไม่ทรงสรรเสริญ ดังนั้นเราควรอยู่กับปัจจุบันทำในสิ่งที่ถูกที่ควร "ท่านอาจารย์จะเตือนพวกเราอยู่เสมอ ว่ากุศลเพียงเล็กน้อยเราก็ไม่ประมาทที่จะมองข้าม อกุศลเพียงเล็กน้อยเราก็จะไม่ทำ" การศึกษาพระธรรมเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์สูงสุดที่จะนำไปสู่กุศลขั้นสูงสุดได้เพื่อพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
ขออนุโมทนาทุกคำตอบค่ะ ทุกคนอยู่บนโลกคนเดียวกับความคิด เพราะจิตเป็นสภาพคิด ห้ามให้จิตคิดไม่ได้ แต่การอบรมเจริญปัญญาโดยการศึกษาพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ ย่อมเป็นการสะสมให้จิตคิดเป็นไปในกุศลชึ่งทำให้เป็นสุข และละคลายการคิดของจิตที่เป็นไปในอกุศลให้เบาบางลงตามกำลังของปัญญา ซึ่งจะทำให้เป็นทุกข์น้อยลง เร่งด่วนไม่ได้เป็นจิรกาลภาวนา (ต้องใช้เวลาในการอบรมนานมากๆ ๆ ๆ ๆ )
เพิ่มเติมความเห็นที่ 17
ในชีวิตประจำวัน เมื่อนอนหลับสนิทไม่ฝัน จะไม่มีความสุขหรือทุกข์ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ที่ไหน มีลูก สามี พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง ฯลฯ เพราะขณะหลับมีจิต แต่เป็นจิตที่ทำหน้าที่ดำรงค์ความเป็นบุคคลนี้ไว้ ไม่ได้ทำหน้าที่่รู้อารมณ์ ๖ ทางและคิด เมื่อจิตไม่คิดก็ไม่สุขไม่ทุกข์และไม่มีอะไรเลยจริงๆ
เพื่อนคุณเอกพันธุ์มีบุญดี เห็นได้จากการมีเพื่อนที่เมตตาอย่างคุณเอกพันธุ์ที่ตั้งใจจะเกิ้อกูลเพื่อนด้วยวิถีธรรม เชื่อว่าด้วยเมตตาที่คุณมีจะสามารถให้กระแสสัมผัสแห่งไมตรีที่เข้าใจที่จะช่วยเขาได้ค่ะ
สำหรับตัวดิฉันเอง เวลาดิฉันทุกข์จะเปิด cd ท่านอาจารย์ฟังทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้ยินตลอดเวลาหรอกค่ะ จิตมันคิดไปไหนต่อไหน แต่มันจะมีบางช่วงที่แวบกลับมาได้ยิน และได้ยินครั้งใดดิฉันก็จะรู้สึกดีจากสิ่งที่ได้ยิน ลองพาเพื่อนมาฟังธรรมท่านอาจารย์ร่วมกับญาติทางธรรมทั้งหลายที่มูลนิธิฯ ลองใช้ชีวิตสัก ๑ วันอยู่กับธรรมะท่านอาจารย์ ดิฉันอยู่ต่างจังหวัด เคยที่เวลาทุกข์ก็พาตัวเองไปฟังท่านอาจารย์ ฟังเงียบๆ ท่ามกลางมิตรในวิถีธรรมทั้งหลาย ไม่ทราบทำไม รู้สึกดีขี้นดีขี้น ลองดูไหมค่ะ
การเริ่มต้นฟังธรรมด้วยวัตถุประสงค์ที่ถูกต้องจะทำให้ได้รับประโยชน์และมั่นคงในการฟังศึกษาพระธรรม มากกว่าที่จะคิดว่าศึกษาเพื่อให้ไม่ทุกข์ เพราะพระธรรมลึกซึ้งและยากที่จะเข้าใจ ความเข้าใจ (ปัญญา) เป็นสภาพธรรมที่ค่อยๆ เกิดที่ละน้อย หากมีเป้าประสงค์เพียงเพื่อไม่ให้มีทุกขเวทนาก็อาจทำให้ไม่มั่นคงในการฟังธรรม แต่ถ้ามีความสนใจที่จะฟังธรรมเพราะต้องการรู้ความจริงที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ จะเป็นประโยชน์ที่ถูกต้อง ส่วนการรู้สึกเบาสบายขึ้นนั้นเป็นผลจากการได้เข้าใจถูก ครับ
แต่แม้จะมีความเข้าใจพระธรรมก็ยังคงมีความทุกข์เกิดขึ้นได้ครับ เพราะเกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้
อ่านในทุกความเห็นแล้วก็...รู้สึกดี
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณมากครับที่ทุกท่านช่วยตอบ
เมื่อวันอาทิตย์ อ.อรรณพตอบคำถามคุณนิรันดร์เรื่องจิตดีมาก
คนทุกคนล้วนแต่ป่วยด้วยอกุศลจิต เพียงแต่อาจมากน้อยแตกต่างกันไป พระธรรมเป็นยาที่ถูกโรคที่สุด
ขออนุโมทนาค่ะ
อินดี้ก็ทุกข์ใจด้วยอกุศลที่มีขนาดใหญ่น้อยแตกต่างกันไปในแต่ละขณะ เมื่อวันอาทิตย์ไม่คิดว่าจะได้ไปเลย คิดจะนั่งเฉยๆ แต่ในที่สุดก็ไปฟังธรรมคงเพราะค่อยๆ เริ่มเสพคุ้นเสียแล้ว และไม่มีอะไรดีกว่าการไปฟังธรรม ฟังคำของบัณฑิตทั้งหลาย
พระธรรมเป็นยาที่ถูกโรคที่สุด....
ขออนุโมทนา
โดยมากคนจะเห็นธรรมะมีประโยชน์ก็ตอนที่มีทุกข์เท่านั้น ส่วนตอนที่มีความสุขไม่เคยคิดจะสนใจเลยค่ะ ส่วนคนที่ไม่เคยศึกษาธรรมะจากท่านอาจารย์ เมื่อมาถามข้าพเจ้าถึงธรรมะที่ข้าพเจ้าศึกษาก็จะเอาแต่ปฏิบัตินั่งสมาธิ อะไรอย่างนี้ ซึ่งเป็นความต้องการที่อยากจะพ้นทุกข์ของสหายหลายคนที่มีทุกข์ (อกหักค่ะส่วนมาก) ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้ให้ซีดีกับหนังสือไปก็แค่นั้นเองค่ะ ครั้นที่เราจะไปยุ่งกับเขามากไปพูดธรรมะมากๆ เข้า เค้าก็จะหาว่าเราไม่เข้าใจเค้าอีก (เธอไม่ได้มาเป็นฉันนี่ นั่น โดนว่าอีก!)
จึงอยากจะบอกว่าเห็นด้วยกับคุณพุทธรักษามากค่ะ ว่าธรรมะไม่ใช่ของสาธารณะจริงๆ ไม่ใช่ว่าใครๆ ฟังแล้วก็จะเข้าใจบรรลุกันไปหมด และเห็นด้วยกับคุณณรงค์ด้วยค่ะว่า "ต้องฟังธรรมด้วยวัตถุประสงค์ที่ถูกต้องจะทำให้ได้รับประโยชน์และมั่นคงในการฟังศึกษาพระธรรม มากกว่าที่จะคิดว่าศึกษาเพื่อให้ไม่ทุกข์"
ขออนุโมทนากุศลจิตของทุกท่านค่ะ
(ความเห็นอาจจะไม่ได้เข้าประเด็นต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย)
ไม่มีใครเกิดมาไม่มีทุกข์กายและทุกข์ใจ แต่เกิดขึ้นแล้วก้ดับไป แล้วก็เกิดอีกแล้วก็ดับอีก เป็นเช่นนี้จนกว่าจะรู้แจ้งธรรมตามความเป็นจริง เป็นพระอรหันตฺ์จึงจะไม่เกิดไม่ดับอีกต่อไป
ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
พระไตรปิฎก
ฟังธรรม
วีดีโอ
ซีดี
หนังสือ
กระดานสนทนา
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)