เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
"อย่าลองกำลังกิเลส" ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยอธิบายวลีข้อนี้ด้วยครับ
ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อย่าลองกำลังของกิเลส คือ อย่าคิดว่ากิเลสที่เกิดเล็กน้อยไม่เป็นอะไร เพราะกิเลสที่เกิดเล็กน้อย แต่สะสมมากขึ้น ย่อมมีกำลังและสามารถทำทุจริตบาปกรรมต่างๆ ได้ ดังนั้นอย่าลองกำลังกิเลส หากยังปัญญายังน้อยครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ควรที่จะได้พิจารณา ว่า
เรื่องของการขัดเกลากิเลส เป็นเรื่องที่ต้องเพียรอบรมจริงๆ เพราะเหตุว่ากุศลนั้นเป็นของธรรมดาที่ว่าย่อมเกิดยาก เจริญยากกว่าอกุศล อกุศลเกิดง่ายมาก ยกตัวอย่างเช่น โลภะก็ไม่ต้องระมัดระวังอะไรเลย ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ มีอยู่เกือบจะตลอดเวลา โทสะก็เหมือนกัน โมหะก็เหมือนกัน แต่ที่จะให้จิตเป็นไปในกุศล เป็นไปในการขัดเกลาและดับกิเลสเป็นเรื่องที่ยาก
ถ้าไม่เห็นโทษของอกุศล กระทำอกุศลอยู่เนืองนิตย์ ประมาทอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทางกาย ทางวาจา วันหนึ่งใครจะรู้ได้ว่า ท่านจะกระทำอกุศลกรรมหนักเพียงไร เพราะว่าการที่จะกระทำอกุศลกรรมหนักๆ ได้ ย่อมมาจากการกระทำไปทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งขาดความละอาย ขาดความเกรงกลัว แล้วก็สามารถที่จะกระทำทุจริตกรรมที่ร้ายแรงได้ เพราะฉะนั้น เรื่องของกิเลสอกุศลธรรมนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรประมาทเลย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
อย่าลองกำลังของกิเลส เพราะกิเลสประมาทไม่ได้ แม้ในครั้งพุทธกาลก็มีตัวอย่าง เช่น
พระโพธิสัตว์เป็นดาบส เห็นผู้หญิงกิเลสก็เกิดแล้วล่วงศีลข้อสาม ค่ะ
เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
กระผมยังเข้าใจไม่มากในข้อนี้ กิเลสที่เกิดในแต่ละวัน การระวังทางทวารทั้ง 5 ก็เป็นการทำที่เป็นตัวตน กิเลสที่สะสมในชวนจิตสามารถห้ามได้หรือครับ หรือว่าต้องสำรวมทวารทั้ง 5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะแวดล้อมที่มีแต่ความพาล กว่าจะรู้ตัวก็ล่วงอกุศลกรรมบถแล้ว ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
เรียนความเห็นที่ 4 ครับ
ต้องมั่นคงในความเป็นอนัตตา เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม กิเลสที่สะสมมามาก และความเป็นปุถุชน ก็สามารถเกิดกิเลสได้ ทั้งทาง ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ ทั้ง 6 ทวาร ไม่มีตัวตนไปห้ามกิเลสได้เลย หากกิเลสได้เหตุปัจจัยเกิดขึ้น และ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมก็สามารถล่วงศีลได้ เพราะ ความที่ยังเป็นปุถุชน ดังนั้น ไม่มีใครห้ามกิเลสได้ ที่เกิดที่ชวนจิต หนทางที่ถูกต้อง คือ ฟังพระธรรมต่อไป เท่านั้น ครับ
ขออนุโมทนา
เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
ถ้าอย่างนั้นการลองกำลังของกิเลสก็คือการขาดการฟังพระธรรมหรือครับ? และปัญญาเท่านั้นที่จะหยุดการลองกำลังของกิเลสหรือครับ?
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
เรียนความเห็นที่ 6 ครับ
การลองกำลังของกิเลส คือ ประมาท คิดว่า กิเลส เล็กน้อยไม่เป็นไร และ ไม่เห็นว่ากิเลสเป็นอันตราย แต่ ไม่ใช่ว่า มีตัวตนที่จะห้ามกิเลส แต่ การคิดว่า กิเลสไม่มีอันตราย ไม่มีโทษ ชื่อว่า การลองกำลังของกิเลส ครับ ซึ่ง การไม่ลองกำลังของกิเลส คือ การฟังธรรม อบรมปัญญา ครับ