คนตาบอดรู้สภาวธรรมที่ปรากฏ ถูกต้องหรือไม่
โดย บ้านธัมมะ  22 ธ.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 6570

คนตาบอดไม่รู้ถึงสีสันวรรณะ แต่คนตาบอดสามารถสัมผัสอ่อน แข็งได้ อย่างนี้ ถือว่ารู้สภาวธรรมที่ปรากฏ ถูกต้องหรือไม่

ทุกคนกระทบสัมผัสสิ่งที่แข็ง ถามใครๆ ก็บอกว่า แข็ง ถามเด็ก เด็กบอกว่าแข็ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญญา เพราะฉะนั้น จะต้องเข้าใจอรรถของสภาพธรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งพระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติ ใช้คำว่า “ปัญญา”

เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจคำว่า “ปัญญาเจตสิก” ไม่ใช่ปัญญาทางโลก ซึ่งเราสามารถจะศึกษาวิชาการทางโลก ซึ่งไม่ได้รู้ตัวจริงของธรรมเลย เป็นแต่เพียงความทรงจำ เรื่องราวของธรรมซึ่งเกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็ว แล้วก็ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นวิชาการสาขาใดๆ ทั้งสิ้น เช่น วิชาการแพทย์ ก็จะมีการทรงจำในรูปร่าง สัณฐานของรูปธรรม สีสันวรรณะที่ต่างกัน บัญญัติว่าเป็น หัวใจ ตับ ปอด ม้าม เป็นต้น แต่ลักษณะแท้ๆ สิ่งนั้นปรากฏเมื่อไร ถ้ามีจักขุปสาท สีสันวรรณะเท่านั้นปรากฏ ถ้ากระทบสัมผัส เย็นหรือร้อน อ่อนหรือแข็ง ตึงหรือไหว เท่านั้นปรากฏ

เพราะฉะนั้น สภาพธรรมจริงๆ ปรากฏ เมื่อจิตเกิดขึ้น รู้สิ่งนั้น ทีละอย่างๆ รวดเร็ว เพราะว่า จิตเกิดขึ้นทีละหนึ่งขณะ จะเกิดในคนหนึ่งซ้อนกัน ๑๐ ขณะหรือ ๑๐ ประเภท หลายๆ ดวงนั้นไม่ได้ แต่ว่าคนหนึ่งๆ จะมีธาตุรู้ซึ่งเป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย แม้แต่ทางใจซึ่งคิดนึก ก็ต้องคิดทีละคำ เพราะฉะนั้น จิตของแต่ละคนก็จะมีทีละหนึ่งขณะ ซึ่งจิตเป็นสภาพที่เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้งลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ เท่านั้นเอง จิตไม่จำ จิตไม่สุข จิตไม่ทุกข์ ความสุข ความทุกข์ต่างๆ ที่เกิดจากการเห็น การได้ยิน เป็นลักษณะของเจตสิก ซึ่งโดยศัพท์หมายถึง สภาพธรรมที่เกิดกับจิต รู้อารมณ์ คือ สิ่งที่ปรากฏให้จิตรู้ อย่างเดียวกับจิต คือ จิตรู้อารมณ์อะไร เจตสิกก็รู้อารมณ์นั้น ส่วนเรื่องราวทางโลกที่บอกว่า คนนั้นมีปัญญา ก็เป็นแต่เพียงทรงจำเรื่องราวโดยไม่รู้สภาพธรรม

เพราะฉะนั้น วิชาการทางโลก ซึ่งมีผู้ที่มีความสามารถต่างๆ ขณะนั้นไม่ใช่ปัญญาเจตสิก ถ้าเป็นปัญญาเจตสิก คือรู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีจริงๆ อย่างถูกต้องตามลำดับขั้น จึงจะเป็นสัมมาทิฏฐิหรือปัญญาเจตสิก



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 1 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 31 มี.ค. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ